กทม. 7 เม.ย. – ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง 334 ราย ศบค. ขอความร่วมมือประชาชน งดเดินทางช่วงสงกรานต์ ขณะ กทม.เพิ่มมาตรการคุมเข้มสถานบันเทิง หลังพบเป็นแหล่งคลัสเตอร์ใหม่กระจายไป 291 ราย ใน 14 จังหวัด
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันนี้เพิ่มขึ้น 334 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 29,905 ราย หายป่วยแล้ว 28,069 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 1,741 ราย ผู้เสียชีวิตสะสมรวม 95 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2563 ถึง 7 เมษายน 2564 จำนวน 25,668 ราย
ผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น 334 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ 327 ราย เป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 174 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 153 ราย เป็นผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ 7 ราย เดินทางมาจากซูดาน 1 ราย อินเดีย 2 ราย ปากีสถาน 1 ราย สวิสเซอร์แลนด์ 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อทั่วโลก 133 ล้านราย เสียชีวิตแล้ว 2.88 ล้านคน สหรัฐมีผู้ติดเชื่อสูงสุด 31.5 ล้านราย ตามด้วยบราซิล 13 ล้านราย อินเดีย 12.7 ล้านราย ฝรั่งเศส 4.8 ล้านราย รัสเซีย 4.59 ล้านราย และสหราชอาณาจักร 4.36 ล้านราย ส่วนประเทศไทย อยู่ในลำดับที่ 114
พญ.อภิสมัย เผยว่าที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. ได้มีการหารือกันถึงกรณีการติดเชื้อจากสถานบันเทิง โดยเฉพาะย่านทองหล่อ เนื่องจากผู้ใช้บริการส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากพฤติกรรมของนักเที่ยวจะไปในหลายๆ สถานบันเทิงใกล้เคียง รวมทั้งนักร้อง นักดนตรี วันที่ 22 มีนาคม ถึง 6 เมษายน มีผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงกับสถานบันเทิง 291 ราย กรุงเทพฯ 200 ราย ชลบุรี 23 ราย สมุทรปราการ 18 ราย สุพรรณบุรี 14 ราย นนทบุรี 13 ราย นครปฐม 7 ราย ปทุมธานี 5 ราย เชียงใหม่ ชุมพร สมุทรสาคร จังหวัดละ 2 ราย เลย กาญจนบุรี ตาก ลพบุรี สระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย
ในส่วนของกรุงเทพฯ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับ กทม. ปิดสถานบันเทิงชั่วคราว 3 เขต ได้แก่ วัฒนา คลองเตย และบางแค วันที่ 6-19 เมษายน รวมทั้งเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการกำกับดูแล และเพิ่มความถี่ในการตรวจตราสถานบันเทิงในโซนที่เกี่ยวข้อง
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. ได้พิจารณาข้อเสนอของ ที่ประชุมประชุมศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กระทรวงสาธารณสุข EOC วันที่ 5 เมษายน มีการทบทวนการปรับระดับพื้นที่การกำหนดพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ที่มีความเป็นห่วง ว่าอาจมีการติดเชื้อจากสถานบันเทิงแพร่กระจายข้ามจังหวัด จึงเสนอปรับพื้นที่สีเป็นรายจังหวัด บางพื้นที่ โดยที่ประชุมเห็นว่ามาตรการที่มีอยู่เดิมก็ให้อำนาจให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อหาข้อสรุปที่มีประสิทธิภาพและสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีที่สุดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงยังไม่มีการปรับพื้นที่สีตามที่เสนอมา แต่จะให้พี่น้องประชาชนติดตามการใช้งานอย่างใกล้ชิดในช่วง 1-2 วันนี้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยจะหารือกันอย่างใกล้ชิด
ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ทางคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ จะจัดสรรวัคซีนกระจายไปให้ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ในวันที่ 6 เมษายน มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มแรก 274,354 ราย ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม 49,635 ราย แผนการกระจายวัคซีนกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่าทำได้ตามแผน 77 จังหวัด โดยตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ – 6 เมษายน จัดสรรวัคซีนซิโนแวค 863,677 โดส อยู่ระหว่างการจัดส่งไปยัง 77 จังหวัดทั่วประเทศ และแอสตราเซเนกา 85,880 โดส เมื่อวัคซีนลอตใหญ่มาถึง มั่นใจได้ว่าโรงพยาบาล และภาคีสาธารณสุข จะสามารถฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องประชาชนได้ตามแผนที่วางไว้
สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วทั่วโลก 658 ล้านโดส อัตราการฉีดอยู่ที่ 16.5 ล้านโดสต่อวัน ใน 151 ประเทศ อย่างไรก็ตาม เดือนมิถุนายนประเทศไทยจะได้รับการกระจายวัคซีนอย่างเหมาะสม และเวลานั้นกระทรวงสาธารณสุข ก็พร้อมที่จะฉีดให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามช่วงเทศกาลสงกรานต์ หากไม่จำเป็นขอให้อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ แต่หากมีความจำเป็นต้องเดินทาง ต้องพกหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เมื่อเข้าไปในพื้นที่ชุมชน หากมีการสวมหน้ากากอนามัย จะช่วยลดการติดเชื้อได้ถึงร้อยละ 90 มาตรการเป็นระยะห่าง ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ยังเป็นสิ่งจำเป็น. – สำนักข่าวไทย