กำชับซื้อชุดตรวจที่ผ่าน อย. หวั่นซื้อออนไลน์ไม่ได้มาตรฐาน

ทำเนียบฯ 5 ส.ค.-ศบค.กำชับประชาชนควรซื้อชุดตรวจโควิดที่ผ่าน อย. จากร้านขายยาหรือสถานพยาบาล ไม่ซื้อผ่านออนไลน์หรือร้านสะดวกซื้อ เกรงไม่ได้มาตราฐาน ย้ำ 4 กลุ่มหลักเสี่ยง ควรตรวจ เกรงไม่มีอาการ รู้ตัวเมื่อสาย

พญ.อภิสมัย  ศรีรังสรรค์  ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( ศบค.)  กล่าวว่ากรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข  ได้ปรับระเบียบให้ประชาชนสามารถหาชุดตรวจ Antigen Test Kit  หรือ ATK มาตรวจได้เอง และ อย.ได้ขึ้นทะเบียนชุดตรวจให้ใช้ได้ 2 แบบ  แบบแรกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะในสถานพยาบาล กับแบบที่ประชาชนซื้อมาตรวจเองได้  ซึ่งมีผลิตภัณท์ที่ผ่าน อย.แล้วมีจำนวน 19 ยี่ห้อ และกำลังพิจารณาเพิ่มอีก  ทั้งนี้การเลือกซื้อควรซื้อที่ร้านขายยาหรือสถานพยาบาลเท่านั้น  เพราะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ไม่อนุญาตให้ซื้อออนไลน์หรือร้านสะดวกซื้อ เพราะเกรงจะได้ชุดตรวจที่ไม่ได้มาตราฐาน 


สำหรับชุดทดสอบที่ผ่าน อย. จำนวน 19 ยี่ห้อ จะต้องเป็นชนิดแอนติเจน ไม่ใช้แอนติบอดี้  ต้องดูว่าเป็นการเก็บตัวอย่างจากจุดไหน  หากเป็นการเก็บตัวอย่างจากโพรงหลังจมูก  จะเป็นการเก็บตัวอย่างที่มีความยากลำบาก เป็นอุปกรณ์สำหรับบุคลาการทางการแพทย์   ในส่วนที่ประชาชาชนใช้เองจะเป็นการเก็บตัวอย่างโพรงจมูก  ซึ่งการเก็บตัวอย่างนอกจากเลือกชุดที่ถูกต้อง  ต้องใช้การเก็บตัวอย่างที่ถูกต้องด้วย ผลตรวจก็จะแม่นยำ  อย่างไรก็ตามกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  จัดอบรมการตรวจชุด ATK ในโรงงานด้วย

ส่วนกรณีที่ประชาชนมีความต้องการจะไปตรวจ ATK ที่สถานพยาบาลต่างๆ นั้น  พญ.อภิสมัย เผยว่า  ทาง ศบค.ได้ร่วมกับ Tech For Thailand   รวบรวมสถานที่ตรวจโควิด-19 ที่ยังให้บริการ  โดยสามารถเข้าเว็บไซต์ Koncovid.com เพื่อเข้าไปค้นหาสถานที่โควิด-19  ทั่วประเทศไทย หรือในกรุงเทพ  โดยหากจะไปตรวจในสถานที่ใกล้บ้าน ให้พิมพ์รหัสไปรษณีย์ก็จะปรากฏสถานที่ตรวจ หรือกดไปที่จุดสีแต่ละจุดในแผนที่ก็จะแสดงข้อมูลของจุดตรวจ  เช่น  สีแดงในบางแห่งอาจเป็นศูนย์หรือแล็บงานวิจัยที่ไม่ได้เปิดให้ประชาชนเข้าไปตรวจได้  ส่วนสีเขียวเป็นโรงพยาบาลของภาครัฐ เป็นต้น


ทั้งนี้แม้ในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน  แม้มีศักยภาพที่จะตรวจได้  แต่ก็มีภาระที่จะต้องตรวจในกรณีอื่นๆ เช่น การคัดกรองผู้ป่วยเข้ารับบริการผ่าตัด  คลอดบุตร หรือเข้าไอซียู   ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลจะต้องมีการตรวจอยู่แล้วเกิน 300 รายต่อวัน  ทำให้ต้องปฏิเสธไม่สามารถรับผู้ป่วยโควิดได้  เพราะภาระหน้างานที่ดำเนินการอยู่  จึงแนะนำให้ประชาชนโทรศัพท์ไปสอบถามก่อน

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงบุคคลที่มีความจำเป็นที่ควรจะตรวจหาเชื้อโควิด-19  คือ 1.คนที่มีไข้ อุณหภูมิ 37.3 มีอาการระบบทางเดินหายใจ  2. คนที่ไม่มีอาการแต่ใกล้ชิดสัมผัสคนในครอบครัวเดียวกันกับผู้ป่วยยืนยัน  3.เดินทางไปพื้นที่เสี่ยง ไปตลาด ชุมชน โรงงาน  และ 4.มีอาชีพหรือกิจกรรมเสี่ยง เช่น ทำงานในโรงงาน  แคมป์ก่อสร้าง พนักงานขับรถ ค้าขายในตลาด พนักงานส่งอาหาร   ความสำคัญในการตรวจหาเชื้อหลังพบว่าจากอัตราผู้เสียชีวิต พบว่ามีมากเกือบร้อยละ 50 ของผู้เสียชีวิต หลังทราบผลตรวจน้อยกว่า  6 วัน  สะท้อนให้เห็นว่าคนไข้ไม่ตระหนักว่าติดเชื้อ  บางรายไม่มีอาการ  หรือเป็นเด็ก หรือผู้สูงอายุ  อาจจะมีอาการซึม ทานอาหารได้น้อย  เหนื่อย  สิ่งสำคัญคือหากผลตรวจเป็นลบ อาจจะเป็นลบลวงได้ ควรกักตัวและตรวจซ้ำ  รวมทั้งสังเกตอาการ

และหากผลตรวจออกมาเป็นบวก  คือพบว่ามีการติดเชื้อ  ขอให้รอยู่ที่บ้านก่อน  และลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ ส่วนกรณีตรวจที่โรงพยาบาลให้แจ้งโรงพยาบาลนั้นๆ  แต่ในกรณี่ที่ไปตรวจแลป คลินิค ประชาสังคมโรงงาน ให้ติดต่อ 1330 จะเป็นเบอร์หลักในการจัดการดูแลผู้ป่วย เพื่อนำเข้าระบบ ส่วนเบอร์โทรศัพท์ 1668 และ 1669 ขอสงวนไว้เป็นสายด่วน เพื่อช่วยชีวิตและช่วยลดความหนาแน่นผู้ป่วย ในระดับสีแดง  และในกรุงเทพฯจะมีเบอร์โทรศัพท์ตรงสำนักงานเขตอีก 50 เลข โดยแต่ละหมายเลขจะมี 20 คู่สาย    ทั้งนี้ในการโทรแจ้งขอให้เตรียมเลขบัตรประชาชน  หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ เพราะจะต้องลงทะเบียน รวมทั้งผลการตรวจ การเตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อม 


“เบื้องต้นผู้ป่วย กทม.ที่เข้าสู่ระบบ โฮม ไอโซเลชั่น (Home Isolation)  เกือบแสนรายแล้ว  และมีศูนย์บริการที่จับคู่ดูแลผู้ป่วย 232 แห่ง   ส่วนผู้ที่ไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้จะต้องเข้ารับการรักษาในชุมชน หรือ คอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น (Community Isolation)  ขณะนี้ใน กทม.มีจำนวน 64   แห่ง  6,958  เตียง ผู้ป่วยเข้าไปแล้ว  3,015 ราย  และมีของภาคประชาสังคมอีกกว่า 100 แห่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งเมียนมา เกิดจากรอยเลื่อนสะกาย ย้ำ กทม.ไม่กระทบโครงสร้าง

กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – กรมทรัพยากรธรณี เผยเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 10 กม. เกิดจากการเคลื่อนตัวแนวระนาบของรอยเลื่อนสะกาย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของเมียนมา ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 500 กม. ด้านสมาคมวิศวกรโครงสร้างฯ เตือนอย่าตื่นตระหนก คนกรุงบนตึกสูงรู้สึกสั่น แต่ไม่กระทบโครงสร้าง กรมทรัพยากรธรณีชี้แจงกรณีแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 09.58 น. ตามเวลาประเทศไทย บริเวณนอกชายฝั่งตอนใต้ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 500 กิโลเมตร การตรวจสอบพบว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดจากการเคลื่อนตัวของ “รอยเลื่อนสะกาย” แนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) ซึ่งมีอัตราการเคลื่อนที่เฉลี่ยปีละ 2 เซนติเมตร รอยเลื่อนนี้เคยสร้างแผ่นดินไหวใหญ่หลายครั้ง อาทิ ปี 2473 ขนาด 7.3 มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน และเมื่อ 28 […]

นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี ศาล รธน.นัดชี้ชะตา 29 ส.ค.

ศาลรัฐธรรมนูญ 21 ส.ค.- นายกฯ พยักหน้ารับกำลังใจดี หลังไต่สวนคดีคลิปเสียงเสร็จ ประชาชนตะโกน “นายกฯ สู้ๆ” ด้านศาล รธน. นัดอ่านคำวินิจฉัยคดี 29 ส.ค. ย้ำ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลและห้ามบิดเบือน ภายหลังการไต่สวนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที คดีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง โดยนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ศาลได้บันทึกเสียงและภาพการไต่สวนแล้ว และย้ำอีกครั้งว่า ห้ามผู้เข้าฟังการไต่สวน นำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามมิให้บิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน ศาลได้สั่งให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันจันทร์ที่ 25 ส.ค. จากเดิมให้ยื่น 27 ส.ค. ซึ่งหากไม่ยื่นจะถือว่าไม่ติดใจ และนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติ วันที่ 29 ส.ค. เวลา 09.30 น. นัดอ่านคำวินิจฉัยในวันเดียวกัน เวลา 15.00 […]

แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งคุมเข้ม หลังเหตุคาร์บอมบ์ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

นราธิวาส 21 ส.ค. – ความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา อส.บาดเจ็บ 6 นาย แม่ทัพภาคที่ 4 รุดตรวจที่เกิดเหตุ สั่งปิดช่องทางหลบหนี คุมเข้มแนวชายแดน ภาพจากกล้องวงจรปิด เหตุคาร์บอมบ์เมื่อคืนนี้ ช่วงเวลา 20.20 น. บริเวณหน้า จุดตรวจ/จุดสกัด ฐาน ชคต.ศาลาใหม่ ม.1 บ้านโคกมะเฟือง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส โดยคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุใช้รถยนต์ Toyota Yaris สีดำ บรรทุกวัตถุระเบิด ขับเข้าพุ่งชนแนวกระสอบทรายบริเวณดังกล่าว ก่อนคนร้ายอาศัยความมืดหลบหนีไปทางซอยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเล จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดส่งผลให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร (อส.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ในฐานได้ยิงตอบโต้เพื่อสกัดกั้นเส้นทางของคนร้าย หลังเกิดเหตุ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผอ.รมน.ภาค 4 สั่งการเร่งด่วนให้หน่วยกำลังในพื้นที่ปฏิบัติตามแผนสกัดกั้น ประสานทุกภาคส่วนร่วมปิดล้อมตรวจสอบเส้นทาง […]

รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา “ช่องอานม้า”

21 ส.ค. – รองแม่ทัพภาค 2 โพสต์เล่าที่มาปัญหา ‘ช่องอานม้า’ เป็นบทเรียนของไทย ชี้ความเพิกเฉยต่อประเด็นความมั่นคง ส่งผลให้เกิดปัญหาใหญ่ระยะยาว พลตรีณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 โพสต์เล่าเกี่ยวกับพื้นที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว โดยช่องอานม้าเป็นช่องเขาลักษณะคล้ายอานม้า เป็นช่องทางธรรมชาติใช้ชักลากไม้นำเข้าจากกัมพูชา ห้วงสงครามกลางเมืองชาวกัมพูชาได้หนีภัยสู้รบเข้ามา ไทยได้เอื้อเฟื้อ ตั้งศูนย์อพยพตามหลักมนุษยธรรม โดยมีหน่วยงานสหประชาชาติอำนวยการ หลังการสู้รบ ได้ส่งคืนผู้อพยพกลับประเทศ แต่มีส่วนหนึ่งยังคงปักหลักตั้งถิ่นฐานไม่ยอมกลับ ด้วยหลักมนุษยธรรมที่สากลนำมากล่าวอ้างและความไม่เด็ดขาดของเรา ทำให้ไม่สามารถผลักดันกลุ่มคนเหล่านี้ออกจากพื้นที่ได้หมดและยืดเยื้อจนเป็นปัญหาถึงปัจจุบัน ปี 2542 ไทยและกัมพูชา เห็นชอบเปิดช่องอานม้าเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อการค้า กำหนดให้ตลาดฝั่งกัมพูชาอยู่ชุมชนเดิม แต่กัมพูชาจับจองพื้นที่ขยายชุมชนจาก 30 หลังเป็นกว่า 100 หลัง ขณะที่ตลาดฝั่งไทยกลับลึกเข้ามาจากแนวเขตแดน 300 เมตร ปี 2554 ในขณะมีข้อขัดแย้งพื้นที่เขาพระวิหาร กัมพูชาใช้ห้วงเวลาที่เราตรึงการรบแอบสร้างอนุสาวรีย์ตาอม และปรับปรุงมาเรื่อยๆ จากแบบชั่วคราว จนเป็นแบบถาวรและขยายบ้านเรือน ฝ่ายทหารได้พยายามแก้ไขด้วยการเจรจาและประท้วง ผ่านกลไกทางทหารและกระทรวงการต่างประเทศ รวม 65 ครั้ง แต่ฝ่ายกัมพูชาเพิกเฉย ซึ่งสร้างความอึดอัดแก่ทหารในพื้นที่เป็นอย่างมาก […]