กำชับซื้อชุดตรวจที่ผ่าน อย. หวั่นซื้อออนไลน์ไม่ได้มาตรฐาน

ทำเนียบฯ 5 ส.ค.-ศบค.กำชับประชาชนควรซื้อชุดตรวจโควิดที่ผ่าน อย. จากร้านขายยาหรือสถานพยาบาล ไม่ซื้อผ่านออนไลน์หรือร้านสะดวกซื้อ เกรงไม่ได้มาตราฐาน ย้ำ 4 กลุ่มหลักเสี่ยง ควรตรวจ เกรงไม่มีอาการ รู้ตัวเมื่อสาย

พญ.อภิสมัย  ศรีรังสรรค์  ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( ศบค.)  กล่าวว่ากรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข  ได้ปรับระเบียบให้ประชาชนสามารถหาชุดตรวจ Antigen Test Kit  หรือ ATK มาตรวจได้เอง และ อย.ได้ขึ้นทะเบียนชุดตรวจให้ใช้ได้ 2 แบบ  แบบแรกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์เฉพาะในสถานพยาบาล กับแบบที่ประชาชนซื้อมาตรวจเองได้  ซึ่งมีผลิตภัณท์ที่ผ่าน อย.แล้วมีจำนวน 19 ยี่ห้อ และกำลังพิจารณาเพิ่มอีก  ทั้งนี้การเลือกซื้อควรซื้อที่ร้านขายยาหรือสถานพยาบาลเท่านั้น  เพราะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ไม่อนุญาตให้ซื้อออนไลน์หรือร้านสะดวกซื้อ เพราะเกรงจะได้ชุดตรวจที่ไม่ได้มาตราฐาน 


สำหรับชุดทดสอบที่ผ่าน อย. จำนวน 19 ยี่ห้อ จะต้องเป็นชนิดแอนติเจน ไม่ใช้แอนติบอดี้  ต้องดูว่าเป็นการเก็บตัวอย่างจากจุดไหน  หากเป็นการเก็บตัวอย่างจากโพรงหลังจมูก  จะเป็นการเก็บตัวอย่างที่มีความยากลำบาก เป็นอุปกรณ์สำหรับบุคลาการทางการแพทย์   ในส่วนที่ประชาชาชนใช้เองจะเป็นการเก็บตัวอย่างโพรงจมูก  ซึ่งการเก็บตัวอย่างนอกจากเลือกชุดที่ถูกต้อง  ต้องใช้การเก็บตัวอย่างที่ถูกต้องด้วย ผลตรวจก็จะแม่นยำ  อย่างไรก็ตามกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  จัดอบรมการตรวจชุด ATK ในโรงงานด้วย

ส่วนกรณีที่ประชาชนมีความต้องการจะไปตรวจ ATK ที่สถานพยาบาลต่างๆ นั้น  พญ.อภิสมัย เผยว่า  ทาง ศบค.ได้ร่วมกับ Tech For Thailand   รวบรวมสถานที่ตรวจโควิด-19 ที่ยังให้บริการ  โดยสามารถเข้าเว็บไซต์ Koncovid.com เพื่อเข้าไปค้นหาสถานที่โควิด-19  ทั่วประเทศไทย หรือในกรุงเทพ  โดยหากจะไปตรวจในสถานที่ใกล้บ้าน ให้พิมพ์รหัสไปรษณีย์ก็จะปรากฏสถานที่ตรวจ หรือกดไปที่จุดสีแต่ละจุดในแผนที่ก็จะแสดงข้อมูลของจุดตรวจ  เช่น  สีแดงในบางแห่งอาจเป็นศูนย์หรือแล็บงานวิจัยที่ไม่ได้เปิดให้ประชาชนเข้าไปตรวจได้  ส่วนสีเขียวเป็นโรงพยาบาลของภาครัฐ เป็นต้น


ทั้งนี้แม้ในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน  แม้มีศักยภาพที่จะตรวจได้  แต่ก็มีภาระที่จะต้องตรวจในกรณีอื่นๆ เช่น การคัดกรองผู้ป่วยเข้ารับบริการผ่าตัด  คลอดบุตร หรือเข้าไอซียู   ซึ่งแต่ละโรงพยาบาลจะต้องมีการตรวจอยู่แล้วเกิน 300 รายต่อวัน  ทำให้ต้องปฏิเสธไม่สามารถรับผู้ป่วยโควิดได้  เพราะภาระหน้างานที่ดำเนินการอยู่  จึงแนะนำให้ประชาชนโทรศัพท์ไปสอบถามก่อน

พญ.อภิสมัย ยังกล่าวถึงบุคคลที่มีความจำเป็นที่ควรจะตรวจหาเชื้อโควิด-19  คือ 1.คนที่มีไข้ อุณหภูมิ 37.3 มีอาการระบบทางเดินหายใจ  2. คนที่ไม่มีอาการแต่ใกล้ชิดสัมผัสคนในครอบครัวเดียวกันกับผู้ป่วยยืนยัน  3.เดินทางไปพื้นที่เสี่ยง ไปตลาด ชุมชน โรงงาน  และ 4.มีอาชีพหรือกิจกรรมเสี่ยง เช่น ทำงานในโรงงาน  แคมป์ก่อสร้าง พนักงานขับรถ ค้าขายในตลาด พนักงานส่งอาหาร   ความสำคัญในการตรวจหาเชื้อหลังพบว่าจากอัตราผู้เสียชีวิต พบว่ามีมากเกือบร้อยละ 50 ของผู้เสียชีวิต หลังทราบผลตรวจน้อยกว่า  6 วัน  สะท้อนให้เห็นว่าคนไข้ไม่ตระหนักว่าติดเชื้อ  บางรายไม่มีอาการ  หรือเป็นเด็ก หรือผู้สูงอายุ  อาจจะมีอาการซึม ทานอาหารได้น้อย  เหนื่อย  สิ่งสำคัญคือหากผลตรวจเป็นลบ อาจจะเป็นลบลวงได้ ควรกักตัวและตรวจซ้ำ  รวมทั้งสังเกตอาการ

และหากผลตรวจออกมาเป็นบวก  คือพบว่ามีการติดเชื้อ  ขอให้รอยู่ที่บ้านก่อน  และลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ ส่วนกรณีตรวจที่โรงพยาบาลให้แจ้งโรงพยาบาลนั้นๆ  แต่ในกรณี่ที่ไปตรวจแลป คลินิค ประชาสังคมโรงงาน ให้ติดต่อ 1330 จะเป็นเบอร์หลักในการจัดการดูแลผู้ป่วย เพื่อนำเข้าระบบ ส่วนเบอร์โทรศัพท์ 1668 และ 1669 ขอสงวนไว้เป็นสายด่วน เพื่อช่วยชีวิตและช่วยลดความหนาแน่นผู้ป่วย ในระดับสีแดง  และในกรุงเทพฯจะมีเบอร์โทรศัพท์ตรงสำนักงานเขตอีก 50 เลข โดยแต่ละหมายเลขจะมี 20 คู่สาย    ทั้งนี้ในการโทรแจ้งขอให้เตรียมเลขบัตรประชาชน  หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ เพราะจะต้องลงทะเบียน รวมทั้งผลการตรวจ การเตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อม 


“เบื้องต้นผู้ป่วย กทม.ที่เข้าสู่ระบบ โฮม ไอโซเลชั่น (Home Isolation)  เกือบแสนรายแล้ว  และมีศูนย์บริการที่จับคู่ดูแลผู้ป่วย 232 แห่ง   ส่วนผู้ที่ไม่สามารถอยู่ที่บ้านได้จะต้องเข้ารับการรักษาในชุมชน หรือ คอมมูนิตี้ ไอโซเลชั่น (Community Isolation)  ขณะนี้ใน กทม.มีจำนวน 64   แห่ง  6,958  เตียง ผู้ป่วยเข้าไปแล้ว  3,015 ราย  และมีของภาคประชาสังคมอีกกว่า 100 แห่ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย