กทม. 20 มี.ค. – รองโฆษก ตร. ยืนยันปฏิบัติการผลักดันให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ ตำรวจได้ใช้รถน้ำแก๊สน้ำตาแบบยิงและกระสุนยาง พิจารณาการใช้แบบเบาไปหาหนัก เจ้าหน้าที่พยายามใช้หลักความอดทนควบคู่ไปกับหลักทางกฎหมายอย่างถึงที่สุดแล้ว มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 6 นาย
เมื่อเวลา 21.00 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตำรวจ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนบริเวณด้านหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ว่าตั้งแต่เกิดเหตุวุ่นวาย ตำรวจพยายามประกาศแจ้งเตือนให้ผู้ชุมนุมหยุดพฤติกรรมดังกล่าว รวมทั้งก่อนหน้าที่ให้ยุติการชุมนุมเพราะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย
แต่ในเวลาต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำลายสิ่งกีดขวาง ตู้คอนเทนเนอร์ รั้วลวดหนาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประกาศเตือนย้ำชัดเจนว่าอย่าทำลายทรัพย์สินเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่เป็นผล ผู้ชุมนุมยังคงเดินหน้าเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์
เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจึงเริ่มฉีดน้ำและเข้าควบคุมกลุ่มผู้ร่วมชุมนุม ซึ่งสามารถจับกุมได้ 5 ราย นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังใช้อาวุธคว้างปาใส่ตำรวจ ทั้งประทัด ก้อนหิน หัวนอต ลูกแก้ว และสิ่งของอื่นๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย
รองโฆษก กล่าวอีกว่า ตำรวจพยายามใช้หลักความอดทนควบคู่ไปกับหลักทางกฎหมาย อย่างถึงที่สุดแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาพยายามขอความร่วมมือให้มวลชนและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเดินทางกลับบ้านออกจากพื้น
อย่างไรก็ตาม ด้านรองโฆษกตำรวจยังยืนยันอีกว่า ปฏิบัติการผลักดันให้คนออกจากพื้นที่ ตำรวจได้ใช้รถน้ำแก๊สน้ำตาแบบยิงและกระสุนยาง ซึ่งพิจารณาการใช้แบบเบาไปหาหนัก
ขณะเดียวกันที่บริเวณถนนราชดำเนินกลางฝั่งลานจอดรถหน้าสวนสันติพร ตรงข้ามโรงแรมรัตนโกสินทร์ ยังคงมีผู้ชุมนุมปักหลักอยู่ประปราย ตำรวจควบคุมฝูงชนเริ่มกระชับพื้นที่อีกครั้ง พร้อมควบคุมตัวเยาวชนชายรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีวางเพลิงเผาทรัพย์สินทางราชการหน้าเรือนจำคลองเปรม กลางดึกคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มผู้ชุมนุมในบริเวนนั้นเป็นอย่างมาก
ส่วนบริเวณสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุม REDEM ส่วนหนึ่งที่ถอยจากเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า กลับไปรวมตัวกัน และเริ่มมีการเผาทำลายทรัพย์สิน ส่งผลให้ต้องโยกกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าเตรียมสลายการชุมนุม พร้อมนำรถฉีดน้ำแรงดันสูงเข้าไปประชิด แต่ถูกตอบโต้จากมวลชนด้วยการขว้างปาวัตถุเสียงดังคล้ายระเบิดเข้าใส่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง. – สำนักข่าวไทย