ไม่ผ่านคัดกรอง ‘เราชนะ’ ขอทบทวนสิทธิได้

กรุงเทพฯ 8 ก.พ.-คลังประกาศผลการคัดกรองคุณสมบัติโครงการเราชนะ ผ่านแล้ว 5.7 ล้านคน ส่วนผู้ที่ตรวจสอบคุณสมบัติแล้วพบว่า “ไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ” สามารถขอทบทวนสิทธิได้ตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท โฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการประกาศผลการคัดกรองคุณสมบัติของประชาชนทั่วไปทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่เปิดรับลงทะเบียนระหว่างวันที่ 29 มกราคม – 12 กุมภาพันธ์ 2564 จากข้อมูลล่าสุด มีประชาชนลงทะเบียนแล้วประมาณ 10 ล้านคน โดยมีประชาชนที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้วมากกว่า 5.77 ล้านคน


ทั้งนี้ หากรวมประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มประชาชนที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” (กลุ่มประชาชนที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลฯ) ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นก่อนกดยืนยันรับสิทธิ์โครงการเราชนะแล้วจะมีประชาชนที่ได้รับวงเงินสิทธิ์ทั้งสิ้นมากกว่า 27 ล้านคน

โฆษกกระทรวงการคลังได้เน้นย้ำว่า สำหรับกลุ่มประชาชนที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลฯ และกลุ่มประชาชนที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com สามารถเริ่มตรวจสอบการคัดกรองคุณสมบัติได้ ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะมีการทยอยประกาศผลการคัดกรองคุณสมบัติตามลำดับ โดยประชาชนทั้ง 2 กลุ่มข้างต้นที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ครั้งแรกในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 2,000 บาท และจะได้รับวงเงินสิทธิ์เป็นรายสัปดาห์ทุกวันพฤหัสบดีจนครบวงเงินสิทธิ์ของโครงการ


ทั้งนี้ ประชาชนที่ตรวจสอบคุณสมบัติแล้วพบว่า “ไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติ” สามารถแสดง ความประสงค์ขอทบทวนสิทธิได้ทาง www. เราชนะ .com ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ – 8 มีนาคม 2564 และสามารถตรวจสอบผลการทบทวนสิทธิได้ทางเว็บไซต์เดียวกัน

สำหรับกลุ่มประชาชนที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com แล้ว แต่ได้รับข้อความสั้น (SMS) แจ้งเตือนสถานะ “ลงทะเบียนไม่สำเร็จ” ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดในการกรอกเลขประจำตัวประชาชน เลขรหัสหลังบัตรประชาชน (Laser ID) ชื่อ ชื่อกลาง (ถ้ามี) นามสกุล วัน เดือน ปีเกิด สามารถลงทะเบียนใหม่ทางเว็บไซต์
www.เราชนะ.com ได้ทันทีหลังจากได้รับ SMS แจ้งเตือนจนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงการคลังพบว่ามีประชาชนหรือร้านค้าที่ใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการเราชนะ ซึ่งกระทรวงการคลังได้มีการประสานขอความร่วมมือหน่วยงานเกี่ยวข้องในการติดตามและตรวจสอบประเด็นดังกล่าวด้วยแล้ว หากตรวจสอบพบว่ามีการกระทำผิดเงื่อนไขจริง จะระงับการใช้แอปพลิเคชันของร้านค้าตลอดจนการจ่ายเงินให้กับร้านค้าทันที และอาจดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป จึงขอความร่วมมือประชาชนรักษาสิทธิ์ของตนเอง และขอให้ร้านค้าและประชาชนปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการเราชนะ


สำหรับประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของโครงการ และการขึ้นราคาสินค้าหรือบริการ เกินกว่าปกติสามารถแจ้งเบาะแสรวมถึงส่งหลักฐานการกระทำผิดเงื่อนไขโครงการทางไปรษณีย์มาได้ที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังหรือทางไปรณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Mail Account) wewin@fpo.go.th

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โทร. 0 2273 9020 ต่อ 3250 3423 3424 3425 3427 3429 3430 3431 และ 3444 (เฉพาะวันและเวลาราชการ) Call Center ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0 2111 1144 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น