กรุงเทพฯ 22 ม.ค.-คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานที่สวนสัตว์สงขลาหาย สรุปพบความบกพร่องในการบริหารจัดการสวนสัตว์ ซากเก้ง 1 ใน 2 ตัวที่พบ ไม่ใช่เก้งเผือก เตรียมแจ้งความดำเนินคดีผู้เลี้ยง 1 ราย
นายเฉลิมชัย ปาปะทา ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเก้งเผือกสายพันธุ์พระราชทานหายไปจากสวนสัตว์สงขลากล่าวว่า คณะกรรมการสรุปผลการสอบสวนและเตรียมเสนอนายวราวุธ ศิลปะอาชา รมว.ทส. เพื่อนำผลการสอบสวนมอบแก่คณะกรรมการ (บอร์ด) องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์พิจารณาดำเนินการ โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สอบสวน 2 ประเด็นคือ ซากเก้ง 2 ซากใช่ซากของเก้งเผือกหรือไม่และการดำเนินกิจการของสวนสัตว์สงขลาที่เก้งเผือกหายไปเป็นความบกพร่องหรือเปล่า
รศ.สพ.ญ. นันทริกา ชันซื่อ หนึ่งในกรรมการกล่าวว่า เก้งเผือกในสวนสัตว์สงขลามี 3 ตัว คือ คุณมูมู่เป็นพ่อ จากนั้นมีลูก 2 ตัวจากเก้งธรรมดาตัวเมีย 2 แม่ แม่แรกมีลูกชื่อคุณภูมิ แม่ที่ 2 มีลูกชื่อ คุณภาค จากการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์พบว่า ซากเก้งซากแรกที่พบและเจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นซากของคุณภูมิ เก้งเผือกที่หายไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2563 นั้น ไม่ใช่เก้งเผือก ส่วนซากที่ 2 ซึ่งพบให้ท้องงูเหลือม ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นซากของคุณภาคที่หายไปเมื่อเดือนกันยายน 2563 เป็นซากเก้งเผือกจริงและถูกงูเหลือมกินตามธรรมชาติ ส่วนผลตรวจดีเอ็นเอปรากฏว่า เป็นลูกของคุณมู่มู่ แต่พิสูจน์ไม่ได้ว่า เป็นลูกของแม่เก้งตัวไหนในสวนสัตว์ และยังยืนยันไม่ได้ว่า ใช่คุณภาคหรือไม่เพราะขนาดของขากรรไกรเท่ากับเก้งอายุ 1 เดือน แต่คุณภาคอายุ 3 เดือน
รศ.เจษฎ์ โทณะวณิก กรรมการองค์การสวนสัตว์กล่าวว่า บอร์ดได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังที่ได้รับรายงานว่า เก้งเผือกหาย จากการตรวจสอบทางอาชญวิทยาพบว่า คือ ผู้เลี้ยง 1 คนมีประวัติและพฤติการณ์น่าสงสัย จึงเตรียมแจ้งความดำเนินคดี ขณะนี้ยังไม่เปิดเผยชื่อ หากแจ้งความแล้ว จึงจะเปิดเผยได้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับผู้บริหาร จนถึงระดับผู้อำนวยการคนก่อนๆ หน้าหรือไม่ รวมทั้งการหายไปของเก้งเผือกทั้ง 2 ตัวเกี่ยวมีความเกี่ยวโยงกับที่นอแรดและนกแก้วมาคอว์ของสวนสัตว์หายไปหรือเปล่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนขยายผลต่อไป
นายสมปอง ทองสีเข้ม ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกล่าวถึงการสอบสวนประเด็นการดำเนินกิจการของสวนสัตว์สงขลามีความบกพร่องทั้งเรื่องการจัดทำทะเบียนประวัติสัตว์ทำให้ตรวจสอบอัตลักษณ์ของสัตว์ไม่ได้ สถานที่เลี้ยงสกปรก รกทึบ การจัดการด้านสวัสดิภาพสัตว์ไม่ดี สัตวแพทย์มีไม่เพียงพอ การบริหารจัดการล่าช้า การที่สัตว์หายไปแสดงถึงความปล่อยปละละเลย ไม่เอาใจใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ได้รับพระราชทาน ระบบรักษาความปลอดภัยหละหลวม เมื่อทราบว่าสัตว์หาย กลับไม่รีบแจ้งความและไม่ดำเนินการเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งทางวินัยและอาญา
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า จากผลการสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด คณะกรรมการจึงจะเสนอให้นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ทส. ให้เสนอต่อบอร์ดองค์การสวนสัตว์ฯ ดำเนินการต่อสวนสัตว์สงขลา รวมทั้งตรวจสอบสวนสัตว์ทั้งหมดที่องค์การสวนสัตว์ดูแลว่า มีปัญหาลักษณะเดียวกันหรือไม่ อีกทั้งให้ปรับปรุงการบริหารจัดการสวนสัตว์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน .-สำนักข่าวไทย