เอาผิดหนุ่มรับเหมาชาวบุรีรัมย์ติดโควิดจากบ่อนอ่างทอง ไม่กักตัว

บุรีรัมย์ 15 ม.ค. – ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ เอาผิดหนุ่มรับเหมาก่อสร้างเดินทางจาก จ.อ่างทอง มาร่วมงานศพญาติใน อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ โดยไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ ไม่กักตัว ไม่สวมหน้ากากอนามัย ซ้ำยังตั้งวงดื่มเหล้า ก่อนทราบภายหลังว่าติดเชื้อโควิด-19 มีผู้สัมผัสเสี่ยง 37 คน


นายธัชกร หัตถาธยากูร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายวิทิต สฤษฎีชัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 และกรณีที่มีผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัด

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่าขณะนี้ จ.บุรีรัมย์ ยังมีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รอบใหม่ เพียง 1 ราย ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนางรอง และยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้ออกหนังสือสั่งการ คำสั่ง และประกาศเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อ ทั้งสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ รวมถึงคุมเข้มผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง หรือพื้นที่สีแดง 28 จังหวัด หากเข้ามาในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จะต้องรายงานตัวกับผู้ใหญ่บ้าน ประธานชุมชน อสม. หรือศูนย์คัดกรองโควิด-19 ในพื้นที่ พร้อมทั้งกรอกแบบคำถามสุขภาพในแบบฟอร์ม ต.8 บร. ผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และจะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน แต่กลับมีผู้ที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งหรือประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อ คือชาย อายุ 33 ปี ชาว ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ อาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งเดินทางมาจาก จ.อ่างทอง ที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่สีแดงหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศ ศบค. แต่ไม่ได้รายงานตัว ไม่มีการตรวจหาเชื้อ ทั้งไม่กักตัว แถมยังไปตั้งวงดื่มแอลกอฮอล์กับบุคคลอื่น จากนั้นเมื่อเดินทางกลับไปทำงานที่ จ.อ่างทอง มีการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกับชายคนดังกล่าว ซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 วัน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368


นายวิทิต สฤษฎีชัย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวว่า จากข้อมูลไทม์ไลน์พบว่าชายคนดังกล่าวเดินทางมาที่ อ.ปะคำ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว เพื่อมาร่วมงานศพที่บ้าน พูดคุย ทักทาย มีการโอบกอดญาติ และเข้าไปเคารพศพ โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย ทั้งยังร่วมวงดื่มเหล้ากับบุคคลอื่นในงานด้วย โดยไม่มีการปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรค

ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ม.ค. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอปะคำได้รับแจ้งว่าชายคนดังกล่าวเป็นผู้ป่วยโควิด-19 เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามป่าโมก มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันจากบ่อนไก่ จ.อ่างทอง ด้วย ทาง จ.บุรีรัมย์ จึงออกค้นหาผู้สัมผัสผู้ป่วยรายนี้ตามไทม์ไลน์ พบมีผู้สัมผัสทั้งหมดประมาณ 37 ราย แบ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง 13 ราย (ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการกลุ่มเสี่ยงสูงเป็นลบ) ส่วนกลุ่มเสี่ยงต่ำ 24 ราย อยู่ระหว่างการเฝ้าระวังสังเกตอาการ จากเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งทำให้ผู้อื่นต้องสุ่มเสี่ยงและได้รับผลกระทบ ทั้งการดำรงชีวิต และด้านเศรษฐกิจด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง