ผู้ว่าฯ อ่างทอง ตั้ง กก.สอบปมดราม่าอาหารผู้กักตัวโควิด

อ่างทอง 12 ม.ค. – ผู้ว่าฯ อ่างทอง สั่งตั้งกรรมการสอบกรณีโซเชียลแฉอาหารผู้กักตัวโควิด-19 สุดแย่ ขณะที่แม่ครัวยืนยันทำเมนูนี้จริง แต่ปริมาณเหมาะสม พร้อมให้ตรวจสอบ


หลังผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งนำภาพของอาหารที่มีข้าวอยู่ใกล่องพลาสติกสีใส มีกุนเชียงทอด 3 ชิ้น และมีต้มยำที่เห็นแต่น้ำ มาโพสต์จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียล ล่าสุดนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง และให้รายงานให้ทางจังหวัดทราบโดยด่วนแล้ว

ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สถานที่กักตัวเพื่อเฝ้าระวังและสังเกตอาการ หรือ Local Quarantine อาคารตึกสีเหลือง ริมถนนสายโพธิ์ทอง-อ่างทอง ต.บางพลับ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พบนายปริญญา เขมะชิต ปลัดจังหวัดอ่างทอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าพูดคุยเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับนางสม (นามสมมติ) แม่ครัวที่ทำอาหารส่งให้กับผู้เข้ากักตัว


นางสม เปิดเผยว่า ตนเองทำอาหารส่งให้ที่นี่เมื่อวันที่ 9 ม.ค. เป็นวันแรก โดยได้รับค่าอาหารกล่องละ 50 บาท รวมน้ำดื่ม อาหารที่ทำก็ให้ปริมาณที่พอสมควร แต่มื้อที่มีปัญหาก็คือมื้อช่วงเย็น ซึ่งผู้กักตัวขอให้เปลี่ยนอาหารบ้าง ตนจึงเปลี่ยนเมนูอาหาร คือต้มยำไก่กับกุนเชียง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ใส่กุนเชียง 3 ชิ้น แต่ใส่ 4-5 ชิ้นทุกกล่อง รวมถึงต้มยำไก่ก็ใส่แยกจากข้าวด้วยถ้วยขนาด 200 มม. มีเนื้อไก่มากพอสมควร ไม่ได้มีอยู่ 1-2 ชิ้น เพราะมาตรฐานของทางเรามีอยู่ โดยใช้กิโลชั่งอาหารตลอด ตอนนี้รู้สึกท้อ ไม่อยากทำ แต่ทางหน่วยงานรัฐก็ขอให้ช่วยทำ

ด้านนายปริญญา ปลัดจังหวัดอ่างทอง เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวได้เข้ามาตรวจสอบ โดยการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง จากข้อมูลพบในช่วงแรกมีการจัดอาหารทั่วไป แต่ผู้กักตัวต้องการเปลี่ยนอาหารบ้าง เนื่องจากจำเจ ทางผู้ประกอบการจึงเปลี่ยนเมนูเป็นต้มยำไก่ กุนเชียง ซึ่งมีปริมาณตามภาพที่ปรากฏจริง แต่ผู้ประกอบการยืนยันว่าเยอะพอสมควร คนทั่วไปเมื่อมองจากภาพอาจคิดว่าน้อย ซึ่งทางจังหวัดรับข้อเท็จจริงและจะแก้ไขปรับปรุงให้ดีที่สุด เบื้องต้นได้ให้ทำเมนูอาหารล่วงหน้าไว้ในตรวจสอบ เสริมด้วยผลไม้ต่างๆ และจะพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด ขณะที่หลังเป็นข่าวมีผู้นำอาหารไปร่วมบริจาค เช่น ลูกชิ้นทอดกว่า 100 ไม้ มามอบให้เจ้าหน้าที่และผู้กักตัวในสถานที่กักตัว

สำหรับสถานที่กักตัวเพื่อเฝ้าระวังและสังเกตอาการ หรือ Local Quarantine แห่งนี้เป็นสถานที่แรกของจังหวัดอ่างทอง จาก 4 แห่ง สามารถรับกลุ่มเสี่ยงที่มีผลเป็นลบเข้ากักตัวได้ 54 ราย ซึ่งเพิ่งเปิดรับคนไปเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยจังหวัดอ่างทองพบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 92 ราย และอยู่หว่างสังเกตอาการอีก 22 ราย รักษาหายแล้ว 1 ราย จากการตรวจเชิงรุกของจังหวัดอ่างทองจำนวน 4,567 ราย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก