ทำเนียบรัฐบาล 11 ม.ค.- ศบค.รายงานผู้ติดเชื้อโควิด19 จำนวน 249 ราย ติดเชื้อในประเทศ 224 ราย สะสม 10,547 ราย ปลื้มคนใช้งานแอปฯ “หมอชนะ” กว่า 4 ล้านคน ลงพื้นที่อุบลฯพรุ่งนี้ตามสถานการณ์จริง
น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 วันนี้(11 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 249 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 224 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 25 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 10,547 ราย หายป่วยแล้ว 6,566 ราย เสียชีวิตคงที่ 67 คน อยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาล 3,914 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้า state quarantine 25 ราย คือ ผู้ที่เดินทางจาก สหราชอาณาจักร 2 ราย สวิตเซอร์แลนด์ 2 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย ตุรกี 1 ราย ฮังการี 1 ราย สหรัฐอเมริกา 1 ราย บาห์เรน 1 ราย เดนมาร์ก 1 ราย มาเลเซีย 1 ราย เมียนมา 14 ราย โดยมีผู้ป่วยหนักอยู่ที่ 28 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 5 คน
“สำหรับผู้ติดเชื้อภายในประเทศ ที่ยังน่ากังวลคือ จังหวัดสมุทรสาคร ที่มีผู้ติดเชื้อในวันนี้ 37 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุตั้งแต่ 9 เดือนถึง 62 ปี ส่วนที่จ.นนทบุรี พบผู้ติดเชื้อ 31 ราย ซึ่งเกินครึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้ป่วยสูงอายุ ตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป เช่นเดียวกับจ.อ่างทอง19 ราย กรุงเทพมหานคร 36 ราย สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำนวน14 ราย มาจากเมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก มีประวัติมาจากแหล่งเล่นการพนัน ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลแม่สอดดูแลอยู่” โฆษกศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ขอบคุณคนไทยที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” จำนวนมากขึ้น โดยตัวเลขผู้โหลดอยู่ที่ 6.3 ล้านครั้ง และคนที่ดาวน์โหลดได้ลงทะเบียนใช้งานอยู่จริงจำนวน 4,407,201 คน ถือว่าประสบผลสำเร็จ และขอให้ทุกคนช่วยกันต่อไป เพื่อช่วยกันควบคุมโรคและเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนโรค
โฆษก ศบค. กล่าวถึงกรณีภาคเอกชนเสนอตัวเข้ามาช่วยตั้งโรงพยาบาลสนามและช่วยคัดกรอง แรงงานและประชาชนชาวจ.สมุทรสาคร ว่า รู้สึกยินดีที่ได้ยินข่าวนี้ ก่อนหน้านี้หลายโรงงานในจังหวัดสมุทรสาครได้ออกค่าใช้จ่ายตรวจคนงานทั้งไทยและแรงงานต่างด้าว โดยเสนอว่าหากต้องการเข้ามามีส่วนร่วมให้หารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและสาธารณสุขจังหวัดเพื่อให้วางแผนอย่างเป็นระบบจะสามารถประหยัด และลดต้นทุนบางอย่างที่สูงได้
“สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เห็นภาพของความรับผิดชอบร่วมกันของภาคเอกชน ภาครัฐและประชาชน ซึ่งหากทำได้จริงจะสามารถขับเคลื่อนแก้ปัญหาเชิงรุกได้ดี หากวางแผนไปด้วยกัน อัตราการติดเชื้อจะลดลงอย่างรวดเร็ว” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การมั่วสุมเสพยาเสพติดของวัยรุ่นจนทำให้มีเสียชีวิต จะกลายเป็นคลัสตอร์ของการระบาดโควิด-19 ได้หรือไม่ โฆษกศบค. กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ เพราะการเสพยาเสพติดส่วนใหญ่จะมั่วสุมกัน และการเสพยาเสพติดเสียชีวิตง่ายกว่าติดเชื้อ โควิด-19 ถือเป็นปัญหาของสังคมที่ต้องช่วยกัน เพราะหากมั่วสุมเสพยาแล้วเกิดติดเชื้อ จะเป็นปัญหาแพร่ระบาดไปถึงผู้อื่น โดยเฉพาะคนในครอบครัว
น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พรุ่งนี้(12 ม.ค.) จะลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี ในฐานะผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเพื่อรับทราบการรายงานสถานการณ์ บางกรณีอาจจะไลฟ์สดจากพื้นที่ เพื่อเป็นการลงพื้นที่จริงและรายงาน ตามจุดต่าง ๆ ที่ไปติดตามความคืบหน้าทั้งโรงพยาบาลสนาม การตั้งจุดตรวจรับมือตามแนวชายแดน ซึ่งได้ขออนุญาตนายกรัฐมนตรีแล้วว่าอาจจะมีรูปแบบใหม่ ๆ ในการนำเสนอ สถานการณ์โควิด19 แทนในช่วงเวลาที่ลงพื้นที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย