สธ 21 ธ.ค. -ผอ.สปคม. แจงการควบคุมโรค ในแรงงานเมียนมา ในโมเดลเดียวกับเคสแรงงานในสิงคโปร์ ย้ำการพบผู้ป่วยจำนวนมากเป็นผลมาจากการปูพรมค้นหา ในทางระบาดวิทยาถือว่าเป็นเรื่องดีที่พบผู้ป่วย เพราะสามารถนำเข้าระบบ สอบสวนโรคพบชัดการแพร่มาจากคนสู่คน ที่มีปฏิสัมพันธ์กัน ไม่ใช่อาหาร ขณะนี้รอผลตรวจในกลุ่มแรงงานอีก 2,600 คน ที่จะทยอยออก
นพ.วิชาญ ปาวัน ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง(สปคม)กล่าวว่า การตรวจค้นหาผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับเคสใน จ.สมุทรสาคร ทำให้พบผู้เกี่ยวข้องติดเชื้อรวม 821 คน รักษาตัวใน รพ.33 คนและเป็นการติดเชื้อในชุมชน 788 คน จากการตรวจหา 4,688 คน และผลออกแล้ว 1,861 คน และผลการตรวจจะค่อยทยอยออกอีก 2,600 คน
อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนทางระบาดวิทยาชัดเจนแล้วว่าจุดเริ่มต้นของการระบาดมาจากแรงงงานเมียนมาที่เคลื่อนย้ายเข้าไทยมา ในช่วงที่มีการระบาดมากในเมียนมาและประกอบวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของแรงงานที่แออัดไม่ค่อยมีการสวมหน้ากากอนามัย จึงทำให้เกิดการแพร่ในชุมชนแรงงานเมียนมาใน จ.สมุทรสาคร อย่างไรก็ตามจะต้องเร่งถอดรหัสสารพันธุกรรมของกลุ่มแรงงานเพื่อเทียบเคียงว่า เป็นเชื้อมาจากเมียนมาจริงหรือไม่
นพ.วิชาญ กล่าวชี้แจงว่า ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงสัญญาณการอัพเดท ที่มีการตรวจค้นหาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เป็นการตรวจเชิงรุก ฉะนั้นไม่อยากให้ประชาชนตระหนกกับตัวเลข ว่าทำไมถึงพบผู้ป่วยจำนวนมาก การตรวจพบในลักษณะนี้ ถือเป็นลักษณะที่ดีในเชิงระบาดวิทยา การป้องกันที่ดีที่สุด ยังเป็นการสวมหน้าอนามัย ล้างมือ และ สังเกตตัวเอง จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ต้องรีบพบแทย์ พร้อมกันนี้สำหรับการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่จ.สมุทรสาคร จะใช้โมเดลเดียวกับการควบคุมโรคในแรงงานของประเทศสิงคโปร์ แต่ผันแปรตามบริบทและสถานการณ์ของแต่ละประเทศ เนื่องจากแรงงานเมียนมาของไทยอยู่กันเป็นครอบครัว แต่ของแรงงานในสิงคโปร์ อยู่ลำพัง และหากเป็นตามที่วางเป้าไว้ ในการสอบสวนโรคและตีวงค้นหาผู้ป่วยให้ได้ 10,300 คน ที่เชื่อมโยงกับตลาดกลางกุ้ง และกลุ่มแรงงานเมียนมา
นพ.วิชาญ กล่าวว่า ส่วนการดูแลแรงงานชาวเมียนมาในพื้นที่นั้น แรงงานได้รับการดูแลทั้งอาหารครบ 3 มื้อ และเป็นตามไปหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้การช่วยเหลือไม่ได้คำนึงว่าเป็นแรงงานที่เข้าไทยถูกกฎหมายหรือไม่เพราะการรักษาต้องดูแลทั้งหมด พร้อมกับป้องกันคนไทยในประเทศด้วย ดังนั้นจึงต้องมีการจัดตั้ง รพ.สนามเพื่อมาช่วยดูแลในส่วนของแรงงาน ให้ครอบคลุม โดยคนที่มีไม่อาการป่วยหรือติดเชื้อ ยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ต้องจำกัดพื้นที่ ในหอพัก คนที่ติดเชื้อ ไม่มีอาการรุนแรง รักษาที่ รพ.สนาม ส่วนที่มีอาการรุนแรง รักษาตัวในรพ.
นพ.วิชาญ กล่าวว่า จากการสอบสวนโรคในเคส จ.สมุทรสาคร ชัดเจนแล้วว่าเป็นการติดในลักษณะบุคคลกับบุคคลที่มีปฏิสัมพันธ์กันไม่เกี่ยวข้องกับอาหารเพราะหากติดจากอาหารจะไม่พบผู้ป่วยในลักษณะนี้แน่นอน การรับประทานอาหารทะเลยังทำได้ตามปกติ แต่ต้องปรุงสุกและเตรียมขยายการตรวจค้นหาในรถขนส่งอาหารด้วย เพื่อให้ครอบคลุม .-สำนักข่าวไทย