ททท.15 ธ.ค.-ผู้ว่าการ ททท.เร่งตรวจ 312 โรงแรม 200 ร้านค้า ที่พบมีพฤติกรรมต้องสงสัย อาจทุจริตเงินสนับสนุนจากรัฐ โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” คาด 1 เดือนตรวจสอบแล้วเสร็จ ผิดจริงขึ้นแบล็กลิสต์และดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แถลงข่าวกรณีพบ 312 โรงแรมที่ร่วมโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน กับ 200 ร้านค้า มีพฤติกรรมต้องสงสัย ส่อทุจริต เงินสนับสนุนจากรัฐในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน อาศัยช่องโหว่ทำเป็นขบวนการ ในหลายพฤติกรรมต้องสงสัย ทั้งเปิดโรงแรมรับเช็กอินแต่ไม่มีการพักจริง อัปราคาแบ่งส่วนต่าง เปิดเป็นโฮสเทลรับ E-Voucher ค่าอาหาร แต่ไม่ได้ให้บริการจริง ขณะนี้มีรายชื่อทั้งหมด มีรายละเอียดที่ต้องไปย้อนดูว่ามีคนเช็กอิน และเข้าพักจริงมากน้อยขนาดไหน และจะระงับการจ่ายเงินไว้ก่อน การตรวจสอบเชื่อว่าจะใช้เวลา 1 เดือน เพราะขบวนการไม่วางแผนนาน และเป็นการกระทำที่ดำเนินการผิดสำเร็จไปแล้ว โดยจะร่วมกับกระทรวงการคลัง และธนาคารกรุงไทยตรวจสอบให้ประจักษ์ หากพบโรงแรมหรือร้านค้าใดทุจริต ต้องถอดจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันทันที และขึ้นแบล็กลิสต์ไม่ให้เข้าร่วมในการโครงการใดๆ ของรัฐอีก และจะดำเนินการฟ้องเอาผิดทั้งคดีแพ่งและอาญาจนถึงที่สุด
ผู้ว่าการ ททท.กล่าวอีกว่า จากโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันทั้งหมด ขณะนี้กว่า 8,000 แห่ง คิดเป็นโรงแรมส่วนน้อยที่เข้าข่ายมีพฤติกรรมต้องสงสัยส่อทุจริต จึงต้องเร่งตรวจสอบดำเนินการแก้ไขระบบให้รัดกุมยิ่งขึ้น ก่อนจะเปิดสิทธิเราเที่ยวด้วยกันเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านสิทธิในวันพรุ่งนี้ (16 ธ.ค.) ดังนั้นจึงจำเป็นจะเลื่อนโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 2 ไปก่อน เพื่อตรวจสอบให้ดีที่สุด ซึ่งไม่กระทบกับคนที่ใช้สิทธิเข้าพักในช่วงฤดูหนาวนี้ที่ต้องลงทะเบียนใช้สิทธิก่อนหน้านี้ .-สำนักข่าวไทย