แจ้ง4ข้อหาลูกชาย ขับรถพาแม่ถูกรถเมล์ทับ

กทม.9 ธ.ค.-ตำรวจ สน.พหลโยธิน แจ้ง 4 ข้อหา ลูกชายของชายที่นอนกลางถนนประท้วงภรรยาถูกรถเมล์ทับเสียชีวิต เตรียมส่งฟ้องศาลเยาวชน


ความคืบหน้ากรณี นายโชคชัย ใบยพฤกษ์  นอนประท้วงกลางถนน หลังภรรยาถูกรถเมล์ ขสมก.ทับเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณ 4 แยกรัชโยธิน  เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน เรียกตัว บุตรชายของผู้เสียชีวิต วัย 17 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถขับรถจักรยานยนต์  มาแจ้ง 4 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่,ใช้รถที่ไม่มีประกันรถภาคบังคับ หรือ พ.ร.บ.รถ ,ขับรถโดยไม่สวมหมวกนิรภัย  ก่อนจะนำตัวไปส่งฟ้องศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ตามขั้นตอนของกฎหมาย

ส่วนคนขับรถประจำทาง ขสมก. ตำรวจได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยตำรวจจะนำตัวส่งฟ้องศาลอาญารัชดาในช่วงบ่ายวันนี้


ทั้งนี้การแจ้งข้อหากล่าวหากับทั้งพนักงานขับรถประจำทางข้อหาขับรถประจำทาง ขสมก. และเยาวชนชาย อายุ 17 ปี  ที่เพิ่งแจ้งข้อหาได้ เนื่องจากผลชันสูตรพลิกศพจากนิติเวช เพิ่งส่งมาให้กับพนักงานสอบสวนในการประกอบสำนวนเพื่อส่งฟ้องต่อศาล

นายโชคชัย กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบเรื่องของกฎหมายเท่าที่ควร รู้แค่เพียงว่าวันนี้ตำรวจให้นำตัวลูกชายมารับทราบข้อหา ส่วนในเรื่องของการเจรจาเมื่อวานเรื่องเงินเยียวยาต่างๆ ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ทำให้ได้รับความเป็นธรรม

ขณะที่นายปิยณัฐ สุกยัง  เลขาธิการเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า ตนเองมาดูแลและให้คำปรึกษาในเรื่องของกฎหมายต่างๆ โดยเบื้องต้นคดีนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหากับทั้งสองฝ่าย ในตอนแรกที่มีความสงสัยว่าได้แจ้งข้อหาคนขับรถโดยสารประจำทางด้วยหรือไม่ จนทราบว่าได้แจ้งไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว  ทั้งนี้ การพิจารณาคดีก็จะมีความแตกต่างกัน เนื่องจากของเยาวชน 17 ปี ก็จะมีความซับซ้อน ซึ่งก็จะเข้าไปดูแลและให้คำปรึกษา


ส่วนในเรื่องของคดีเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องไปสู้กันในชั้นศาล ซึ่งแต่ละฝ่ายอาจมองว่าตนไม่ได้ประมาท ก็ต้องไปนำเสนอกันในศาล และศาลจะเป็นผู้พิจารณาเอง และหากจะเรียกร้องในเรื่องของเงินเยียวยาต่อก็ต้องไปสู่ขั้นตอนของศาลแพ่ง

สำหรับคดีนี้ถือได้ว่ามีความคืบหน้าหลังมีการร้องผ่านสื่อมวลชนไป เนื่องจากมีการสรุปสำนวนอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยประเทศไทยอากาศร้อน-ใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคกลาง ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา