วอชิงตัน 29 ก.ย.- ธนาคารโลกคาดว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จะทำให้เอเชียตะวันออกและแปซิฟิกเติบโตน้อยที่สุดนับจากปี 2510 และจะทำให้คนมากถึง 38 ล้านคนกลายเป็นคนจน
ธนาคารโลกซึ่งตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐ ออกรายงานฉบับปรับปรุงเมื่อวันจันทร์ว่า ปีนี้เศรษฐกิจภูมิภาคนี้น่าจะเติบโตเพียงร้อยละ 0.9 แยกเป็นจีนที่น่าจะเติบโตได้ร้อยละ 2 เพราะการใช้จ่ายภาครัฐ การส่งออกแข็งแกร่ง และอัตราการติดโรคโควิด-19 ต่ำมาตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่จะถูกฉุดรั้งด้วยการบริโภคในประเทศชะลอตัว ขณะที่เอเชียตะวันออกและแปซิฟิกที่เหลือทั้งหมดจะหดตัวร้อยละ 3.5 มาตรการจำกัดการแพร่ระบาดทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศถูกจำกัดอย่างมาก และถูกซ้ำเติมจากเศรษฐกิจโลกถดถอยเพราะการแพร่ระบาด เนื่องจากภูมิภาคนี้พึ่งพาการค้าและการท่องเที่ยวเป็นหลัก
รายงานของธนาคารโลกแนะนำว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกอาจต้องปฏิรูปการคลังเพื่อระดมรายได้สำหรับรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเงินจากการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันโครงการคุ้มครองทางสังคมจะช่วยให้คนกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อีกครั้ง ประเทศที่มีโครงการแบบนี้และมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีตั้งแต่ก่อนเกิดโรคโควิด-19 สามารถฟื้นตัวในเร็วตั้งแต่ช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาด
รายงานของธนาคารโลกคาดการณ์ด้วยว่า โรคโควิด-19 จะทำให้คนยากจนในภูมิภาคนี้ที่ยังชีพด้วยรายได้วันละ 5.50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 174 บาท) เพิ่มขึ้น 33 ล้านคนเป็น 38 ล้านคน เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 20 ปี.-สำนักข่าวไทย