จีนย้ำซัมมิตเอเชียตะวันออกต้องเดินในทางที่ถูกต้อง

เวียงจันทน์ 28 ก.ค.- รัฐมนตรีต่างประเทศจีนย้ำต่อที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่ สปป.ลาวเมื่อวันเสาร์ว่า ควรเดินในทิศทางที่ถูกต้อง และปกป้องความเป็นธรรมสากล สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี (CCTV) ของทางการจีนรายงานว่า นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งเป็นกรรมการในกรมการเมืองของคณะกรรมาธิการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวปราศรัยต่อการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก หรืออีเอเอส (EAS) ครั้งที่ 14 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ว่า สถานการณ์นานาชาติในขณะนี้เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงและความโกลาหล ประเด็นร้อนทวีความร้อนแรงและยากที่จะแก้ไข อีเอเอสจึงควรเดินในทิศทางที่ถูกต้อง ส่งเสริมความเป็นเอกภาพและความร่วมมือ ส่งเสริมสันติภาพและความรุ่งเรืองของภูมิภาคในระยะยาว และปกป้องความเป็นธรรมสากล นายหวังกล่าวว่า จีนขอเสนอ 4 ประเด็น ประเด็นแรก คือ การคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมภูมิภาคที่นำโดยอาเซียนเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ไม่ปล่อยให้ประเทศนอกกลุ่มสร้างกลุ่มย่อยขึ้นมาสร้างความแตกแยก ประเด็นที่ 2 คือ การปฏิบัติตามระเบียบภูมิภาค ไม่ปล่อยให้มีประเทศใดใช้กฎเพื่อประโยชน์ของตนเองตามอำเภอใจ ประเด็นที่ 3 คือ การร่วมกันผลักดันให้เกิดเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก เพราะการแยกและทำลายห่วงโซ่อุปทานและการตั้งกำแพงการค้ามีแต่จะทำให้เศรษฐกิจภูมิภาคย่ำแย่ ประเด็นสุดท้าย คือ การรักษาสมดุลของความมั่นคงทางการเมืองกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ รัฐมนรีต่างประเทศจีนถือโอกาสนี้ย้ำเรื่องไต้หวันว่า เป็นเรื่องภายในของจีนทั้งสิ้น กลุ่มภายนอกไม่มีสิทธิแทรกแซง ย้ำเรื่องจุดยืนที่จริงจังของจีนในทะเลจีนใต้ และจุดยืนของจีนที่จะส่งเสริมการหยุดยิงและการใช้วิถีทางการเมืองแก้ไขความขัดแย้งในกรณีปาเลสไตน์และวิกฤตยูเครน.-814.-สำนักข่าวไทย

เอเชียตะวันออกหนาวจัด

ปักกิ่ง 25 ม.ค.- หลายประเทศในเอเชียตะวันออก ทั้งจีน เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น กำลังเผชิญสภาพอากาศหนาวจัดและหิมะตกหนัก กระทบการเดินทางและการใช้ชีวิตของผู้คน สถานีอุตุนิยมวิทยาเมืองโม่เหอ  มณฑลเฮยหลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน บันทึกอุณหภูมิต่ำสุดทุบสถิติที่ – 53 องศาเซลเซียสในวันตรุษจีนพอดี ต่ำสุดทุบสถิติในรอบ 54 ปี นับตั้งแต่เริ่มบันทึกสถิติอุณหภูมิต่ำสุดในเมืองนี้ที่ -52.3 องศาเซลเซียสเมื่อปี 2512 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมืองโม่เหอเผชิญกับอุณหภูมิต่ำกว่า – 50 องศาเซลเซียสมานาน 3 วันติดกันแล้ว ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้วถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากเมืองโม่เหอแล้ว ยังมีหลายพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนที่มีอุณหภูมิต่ำสุดทุบสถิติในช่วงสุดสัปดาห์ตรุษจีนที่ผ่านมา ส่งผลให้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาจีนออกมาเตือนตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วว่า ลมหนาวจะทำให้อุณหภูมิดิ่งลงตลอดสัปดาห์นี้ ส่วนที่ญี่ปุ่น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นพยากรณ์ว่า พื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันตกของญี่ปุ่น อาจเผชิญหิมะตกหนักไปจนถึงวันพฤหัสบดีนี้ ส่วนในวันนี้ อุณหภูมิอาจลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในหลายเมืองใหญ่ ทั้งกรุงโตเกียว นาโกยา และฟูกุโอกะ พร้อมเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านในช่วงเวลาที่หิมะตกหนัก ขณะที่สายการบินเจแปน แอร์ไลนส์ และเอเอ็นเอ เผย เที่ยวบินอาจล่าช้าหรือถูกยกเลิกในวันพุธและพฤหัสบดี เช่นเดียวกับกำหนดการเดินรถไฟอาจล่าช้าเช่นกัน ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า หลายพื้นที่ของเกาหลีใต้เผชิญสภาพอากาศที่หนาวเย็นที่สุดของฤดูหนาวปีนี้เมื่อวานนี้ […]

สหรัฐชี้จีนซ้อมรบเพิ่มความตึงเครียดอย่างสำคัญ

พนมเปญ 5 ส.ค.- นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระบุว่า การที่จีนซ้อมรบมุ่งเป้าหมายที่ไต้หวัน รวมถึงการยิงขีปนาวุธไปตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น เป็นการเพิ่มความตึงเครียดอย่างมีนัยสำคัญ ขอให้จีนยอมถอย นายบลิงเคนแถลงกับสื่อนอกรอบการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนที่กรุงพนมเปญของกัมพูชาในวันนี้ว่า นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเยือนไต้หวันอย่างสันติ และไม่ได้แสดงออกถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายสหรัฐที่มีต่อไต้หวัน แต่จีนใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างเพื่อเพิ่มกิจกรรมทางทหารอย่างยั่วยุทั้งในและรอบช่องแคบไต้หวัน สถานการณ์ดังกล่าวทำให้มีการพูดคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังในการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก เขาได้ย้ำในการประชุมดังกล่าวว่า สหรัฐได้ประกาศต่อสาธารณะและต่อจีนในช่วงหลายวันมานี้ว่า ไม่ควรใช้การเยือนนี้บังหน้าการทำสงคราม การเพิ่มความตึงเครียด การยั่วยุ ขอให้จีนยุติการกระทำเหล่านี้ เขาเคยแจ้งต่อนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนระหว่างพบกันที่บาหลีของอินโดนีเซียเรื่องนางเปโลซีอาจเยือนไต้หวัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวด้วยว่า สหรัฐจะไม่เปลี่ยนแปลงพันธกิจที่มีต่อความมั่นคงของพันธมิตรในภูมิภาค กระทรวงกลาโหมได้สั่งการให้เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกนประจำการในพื้นที่เพื่อสังเกตสถานการณ์ สหรัฐจะขึ้นบิน เดินเรือ และเคลื่อนไหวในทุกแห่งที่กฎหมายสากลอนุญาต จะเดินทางผ่านน่านฟ้าและน่านน้ำของช่องแคบไต้หวันตามมาตรฐานต่อไป โดยสอดคล้องกับแนวทางที่สหรัฐยึดถือมานานเรื่องร่วมมือกับพันธมิตรและหุ้นส่วนในการยืนหยัดเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน เอพีรายงานว่า ช่วงเปิดการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก นายหวัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้แตะไหล่นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียขณะเดินเข้าห้องประชุม และได้โบกมือก่อนนั่งให้นายลาฟรอฟ ด้านนายลาฟรอฟที่นั่งอยู่แล้วได้โบกมือตอบ ขณะที่นายบลิงเคนซึ่งเดินเข้าห้องประชุมเป็นคนสุดท้ายไม่แม้แต่จะแลตามองนายลาฟรอฟที่นั่งห่างออกไปไม่มาก หรือนายหวังที่นั่งอยู่ห่างออกไป.-สำนักข่าวไทย

เผยปี 2564 ยึดยาบ้าในเอเชียตะวันออก-ตะวันออกเฉียงใต้สูงสุด

กรุงเทพ 30 พ.ค. – องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น เผยวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถยึดยาเมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ได้กว่า 1 พันล้านเม็ดในปี 2564 ทำสถิติสูงสุด เนื่องจากแก๊งค้ายาเสพติดได้โอกาสในช่วงที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 และสถานการณ์ไม่มั่นคงหลังเหตุรัฐประหารในเมียนมาเพื่อลักลอบขนส่งยาเสพติดมากขึ้น สำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่า เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายของรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ยึดยาเมทแอมเฟตามีนเกือบ 172 ตัน เพิ่มขึ้น 7 เท่าจากเมื่อสิบกว่าปีก่อน และทำให้ราคาของยาดังกล่าวทำสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในประเทศไทยและมาเลเซีย นายเจเรมี ดักลาส เจ้าหน้าที่ของ UNODC กล่าวว่า ปริมาณยาเมทแอมเฟตามีนและสถิติการค้ายาเสพติดในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากจนน่าตกใจ ทั้งยังระบุว่า แก๊งค้ายาเสพติดและกลุ่มติดอาวุธได้ฉวยโอกาสจากสถานการณ์ไม่มั่นคงทางการเมืองของภูมิภาคเหล่านี้และการระบาดของโรคโควิดเพื่อทำกำไรมหาศาลให้แก่ตนเอง รายงานของ UNODC ยังระบุว่า แม้ยาเมทแอมเฟตามีนที่ถูกยึดมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก แต่พบว่ายาไอซ์ที่ถูกยึดกลับมีปริมาณลดลงเหลือ 79 ตัน เทียบกับในปี 2563 ที่มี 82 ตัน แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงมากเมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีก่อนที่มีน้อยกว่า 10 ตัน ทั้งยังระบุว่า รัฐฉาน ทางตอนเหนือของเมียนมา […]

นายกฯญี่ปุ่นจะเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่พบไบเดน

โตเกียว 15 เม.ย.- นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะของญี่ปุ่นจะเดินทางไปสหรัฐในวันนี้ และจะเป็นผู้นำต่างชาติคนแรกที่เข้าพบประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ คาดว่าความกังวลเรื่องจีนจะเป็นเรื่องหลักของการหารือ การเยือนของนายซูงะมีขึ้นหลังจากนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศและ พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเยือนญี่ปุ่น และหลังจากผู้นำ 4 ชาติในกลุ่มควอด (Quad) ประกอบด้วยญี่ปุ่น สหรัฐ ออสเตรเลียและอินเดียประชุมสุดยอดออนไลน์เมื่อเดือนมีนาคม นายคุนิฮิโกะ มิยาเกะ ประธานสถาบันนโยบายต่างประเทศของญี่ปุ่นมองว่า การเยือนสหรัฐเป็นการส่งสัญญาณว่า นโยบายการทูตของสหรัฐให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกกับเอเชียตะวันออก เพราะสหรัฐมีความกังวลเช่นเดียวกับญี่ปุ่นเรื่องสภาพแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เอเอฟพีคาดว่า แถลงการณ์ร่วมของนายกรัฐมนตรีซูงะกับประธานาธิบดีไบเดนจะย้ำเรื่องหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกที่ญี่ปุ่นเรียกว่าเซ็นกากุและจีนเรียกว่าเตียวหยู ได้รับความคุ้มครองตามสนธิสัญญาความมั่นคงญี่ปุ่น-สหรัฐ และอาจแสดงความกังวลเรื่องสิทธิมนุษยชนในฮ่องกงและเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ในจีน นายเคียวจิ ยานางิซาวะ ประธานสถาบันภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นมองว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนจะมีผลกระทบต่อญี่ปุ่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้านจีน ทั้งในแง่ความมั่นคงแห่งชาติและแง่เศรษฐกิจ ญี่ปุ่นจึงต้องใคร่ครวญให้ดีว่าจะไกล่เกลี่ยสหรัฐและจีนอย่างไร ด้านนายโรเบิร์ต ดูจาร์ริก ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออก มหาวิทยาลัยเทมเปิล วิทยาเขตญี่ปุ่นเชื่อว่า ญี่ปุ่นจะไม่สนับสนุนให้ลงโทษจีนทางเศรษฐกิจเพราะเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า สหรัฐต้องการแถลงการณ์ร่วมกับญี่ปุ่นพูดถึงไต้หวันด้วย ซึ่งจะเป็นครั้งแรกนับจากปี 2512 ขณะที่นายกรัฐมนตรีซูงะไม่พูดถึงจีนในบทความที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล โดยระบุเพียงว่า เป็นการเยือนเพื่อแสดงให้เห็นว่าทั้งสองประเทศมีความเป็นผู้นำไปสู่การสร้างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง เอเอฟพีมองว่า การเยือนครั้งนี้เป็นโอกาสให้นายซูงะเรียกคะแนนนิยมในประเทศที่ตกต่ำเพราะเรื่องไม่สามารถควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 คาดว่าเขาจะชวนไบเดนมาร่วมชมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อนโตเกียวในกลางปีนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

“โอเบรียน” เป็นตัวแทนสหรัฐในการประชุมอาเซียน

นายโรเบิร์ต โอเบรียน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ เป็นตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐในการประชุมเสมือนจริงกับประเทศในภูมิภาคเอเชียในช่วงสุดสัปดาห์นี้

คาดโควิดทำให้เอเชียโตน้อยสุดในรอบกว่า 50 ปี

วอชิงตัน 29 ก.ย.- ธนาคารโลกคาดว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 จะทำให้เอเชียตะวันออกและแปซิฟิกเติบโตน้อยที่สุดนับจากปี 2510 และจะทำให้คนมากถึง 38 ล้านคนกลายเป็นคนจน ธนาคารโลกซึ่งตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐ ออกรายงานฉบับปรับปรุงเมื่อวันจันทร์ว่า ปีนี้เศรษฐกิจภูมิภาคนี้น่าจะเติบโตเพียงร้อยละ 0.9 แยกเป็นจีนที่น่าจะเติบโตได้ร้อยละ 2 เพราะการใช้จ่ายภาครัฐ การส่งออกแข็งแกร่ง และอัตราการติดโรคโควิด-19 ต่ำมาตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่จะถูกฉุดรั้งด้วยการบริโภคในประเทศชะลอตัว ขณะที่เอเชียตะวันออกและแปซิฟิกที่เหลือทั้งหมดจะหดตัวร้อยละ 3.5 มาตรการจำกัดการแพร่ระบาดทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศถูกจำกัดอย่างมาก และถูกซ้ำเติมจากเศรษฐกิจโลกถดถอยเพราะการแพร่ระบาด เนื่องจากภูมิภาคนี้พึ่งพาการค้าและการท่องเที่ยวเป็นหลัก รายงานของธนาคารโลกแนะนำว่า ประเทศในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกอาจต้องปฏิรูปการคลังเพื่อระดมรายได้สำหรับรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเงินจากการแพร่ระบาด ขณะเดียวกันโครงการคุ้มครองทางสังคมจะช่วยให้คนกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้อีกครั้ง ประเทศที่มีโครงการแบบนี้และมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีตั้งแต่ก่อนเกิดโรคโควิด-19 สามารถฟื้นตัวในเร็วตั้งแต่ช่วงที่ยังมีการแพร่ระบาด รายงานของธนาคารโลกคาดการณ์ด้วยว่า โรคโควิด-19 จะทำให้คนยากจนในภูมิภาคนี้ที่ยังชีพด้วยรายได้วันละ 5.50 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 174 บาท) เพิ่มขึ้น 33 ล้านคนเป็น 38 ล้านคน เพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 20 ปี.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ เป็นประธานการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก(EAS)ครั้งที่ 14

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ครั้งที่ 14 หารือความคืบหน้าแผนปฏิบัติการมะนิลา สถานการณ์ในภูมิภาค และการเสริมสร้างหุ้นส่วนเพื่อความยั่งยืน

คณะผู้นำเข้าร่วมประชุมเอเชียตะวันออกวันนี้

ผู้นำ 18 ประเทศสมาชิกการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกร่วมหารือในประเด็นภูมิภาคและระหว่างประเทศในการประชุมประจำปีที่สิงคโปร์วันนี้

เอเชียตะวันออก-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เตรียมรับมือไต้ฝุ่นสองลูกซ้อน

ไต้ฝุ่นสองลูกที่จะพัดผ่านเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไล่เลี่ยกันในสัปดาห์นี้ทำให้หลายพื้นที่ต้องประกาศเตือนภัยและสั่งอพยพประชาชนเพื่อความปลอดภัย

รมว.ตปท.สหรัฐและจีนร่วมประชุมเอเชียตะวันออกที่สิงคโปร์

นายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐและนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนยังไม่ได้พูดคุยกันในการประชุมที่สิงคโปร์วันนี้

ธนาคารโลกปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออก

ธนาคารโลกปรับเพิ่มแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2018 ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก แต่เตือนว่า สงครามการค้าที่อาจจะเกิดขึ้น

1 2
...