นายกฯ เปิด 30 บาทรักษาทุกที่ อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง

กทม. 1 พ.ค.-นายกฯ เปิด 30 บาทรักษาทุกที่ อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs ตั้งเป้าคนไทย 38 ล้านคน เข้าถึงบริการ ลดค่าใช้จ่าย 2.2 หมื่นล้านบาท

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการบริการทุกช่วงวัย ด้วยความห่วงใยจากกระทรวงสาธารณสุข “30 บาท รักษาทุกที่ อสม.มั่นคง สาธารณสุขเข้มแข็ง เพื่อคนไทยห่างไกล NCDs” ของเขตสุขภาพที่ 4 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ระยะเวลาดำเนินโครงการเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.-30 ก.ย.นี้ ตั้งเป้าประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์กว่า 38 ล้านคน ลดค่าใช้จ่ายปีงบประมาณ 2568 กว่า 22 ล้านบาท ที่มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นางมนพร เจริญศรี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข คณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และ อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.) เข้าร่วม กว่า 10,000 คน


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานว่าในปัจจุบันนี้ วิถีชีวิตของคนไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของพฤติกรรมการกิน การพักผ่อน การเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งมีคำกล่าวที่เราได้ยินกันว่า การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ เป็นเรื่องจริง และการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้กล่าวว่า พวกเราสุขภาพดีขึ้นก็จะประหยัดงบประมาณไปด้วย เจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลก็ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป แต่ความจริงแล้ว พวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร อาชีพใดๆ ก็ตาม ถ้าร่างกายแข็งแรง นั่นคือความสุขที่แท้จริง ร่างกายก็เหมือนกับบ้านของเรา บ้านเราสะอาด บ้านเราปลอดภัย เราก็จะสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข ร่างกายของเราก็เช่นกัน ถ้าร่างกายของเราไม่มีโรค ถ้าร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ ก็จะมีแรง มีศักยภาพในการทำงานต่อไปในอนาคต ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมากที่อยากจะให้พี่น้องคนไทยทุกคนแข็งแรง

อย่างแรก ทุกคนต้องรู้ก่อนว่า สิ่งที่เรารับประทานเข้าไป มีประโยชน์หรือมีโทษกับร่างกายอย่างไร เราก็จะเห็นได้ว่า โรค NCDs โรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง แต่มีคนเสียชีวิตจากโรคนี้มาก ซึ่งจากข้อดำเนินการและข้อปฏิบัติการของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้มีตัวเลขผู้เสียชีวิตน้อยลง พี่น้องคนไทยรู้วิธีการรักษาสุขภาพดีมากขึ้น ถือเป็นต้นทุนที่สำคัญของประเทศ ทุกคนแข็งแรง มีศักยภาพ ประเทศชาติมีโอกาสก้าวไปข้างหน้าได้อย่างดียิ่งขึ้น วันนี้จึงเน้นย้ำการสื่อสาร ใหความรู้ ในเรื่องการป้องกันโรค ป้องกันตัวตั้งแต่ต้น มีส่วนสำคัญมาก


พร้อมกันนี้ ได้ขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอสม. ที่เป็นด่านหน้าให้รัฐบาลติดต่อกับพี่น้องประชาชนให้เข้าใจว่า รัฐบาลต้องการให้ประชาชนแข็งแรง มีศักยภาพในการช่วยกันพัฒนาประเทศต่อไป ทราบว่า ทุกคนทำงานอย่างหนัก เพื่อให้นโยบายเหล่านี้บรรลุผล ทำให้ทุกคนมีสุขภาพดี ที่สำคัญ เราจะเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ง่าย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ในหลายจังหวัดมีการส่งยาทางเทเลเมดิซีน ทำให้ทุกคนเข้าถึงการรักษาเข้าหาคุณหมอ ขอบคุณ อสม.ที่ขับเคลื่อนโครงการของสาธารณสุขต่อเนื่อง ทั้งการให้ความรู้การดูแลชุมชนเป็นสะพานเชื่อมระหว่างรัฐและชุมชน ถือเป็นบทบาทสำคัญทำให้ประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรมได้และเข้าใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น อยากให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันสื่อสารความรู้และข้อความไปถึงทุกคนทุกที่ จะทำให้คนไทยของเรามีร่างกายแข็งแรงมากขึ้น

พร้อมขอบคุณ อสม. ที่ขับเคลื่อนโครงการสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการให้ความรู้การดูแลชุมชนเป็นสะพานเชื่อมระหว่างรัฐกับประชาชนซึ่งจะเป็นบทบาทที่สำคัญ ในการทำให้ประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรมเข้าใจเรื่องของสุขภาพมากขึ้น อยากให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันสื่อสารความรู้ที่สำคัญไปถึงทุกคนทุกพื้นที่เพื่อทำให้คนไทยมีร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น ขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการทุกนโยบายของรัฐบาล อาศัยทั้งภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาชนทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการเพื่อให้นโยบายต่างๆ ส่งถึงประชาชนอย่างทั่วถึงในทั่วประเทศ


หลังเปิดงานแล้ว นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมนิทรรศการ 12 บูธ ของหน่วยงานต่างๆที่มาให้ความรู้ เรื่องสุขภาพ พร้อมกับมอบอุปกรณ์เครื่องช่วยฟังให้กับผู้สูงอายุ ที่มีปัญหาเรื่องการได้ยิน.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

ออกหมายจับ สจ.คนดังพร้อมพวก รุมทำร้าย ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 12 พ.ค.- ศาลจังหวัดสงขลาออกหมายจับ สจ.คนดัง พร้อมพวกรวม 7 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้าย ‘ด.ต.’ คาหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งเอาผิด พวกทำตัวเหนือกฎหมาย จากกรณีสมาชิกสภา อบจ.สงขลา บุตรชาย สส.สงขลา ก่อเหตุสั่งให้ลูกน้อง 6 คน รุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต สังกัด ตชด.43 ปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง บริเวณหน้าหน่วยเลือกตั้งที่ 7 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลาหลัง ส.อบจ.คนดังกล่าว เข้ามาใช้สิทธิที่หน่วย และให้ลูกน้องถ่ายรูป ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด.ต.นิสาธิต จึงได้เข้าไปตักเตือน สร้างความไม่พอใจ ก่อนขับรถออกจากหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นมีกลุ่มชายชกรรจ์ 5-7 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง และรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต บาดเจ็บ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อ้างว่าลูกพี่ใหญ่ ไม่มีใครกล้าทำอะไร ล่าสุด ศาลจังหวัดสงขลาอนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 7 […]

เพลิงไหม้มาราธอน โหมโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ยังคุมไม่ได้

12 พ.ค.- ยังไม่ดับ! ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ย่านลาดกระบัง ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน ยังไม่สามารถลงไปได้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ รุดลงพื้นที่ สั่งอพยพชาวบ้านใกล้เคียง เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ยืนยันสถานการณ์จะคลี่คลายภายในวันนี้ เพลิงไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์ ซอยฉลองกรุง 55 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ลุกโหมมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ ก่อนเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงเข้าควบคุมสถานการณ์ ตลอดทั้งคืน ยังมีไฟปะทุออกจากชั้นใต้ดินของโครงสร้างอาคาร     ล่าสุดเช้าวันนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมทีมวิศวกรผู้ เชี่ยวชาญด้านอาคารโรงงานอุตสาหกรรม ตำรวจ และทีมกู้ภัย เร่งเข้าตรวจสอบความเสียหายรอบพื้นที่โรงงาน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เผยว่า มอบหมายให้ ดร.สุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา(ดร.จอร์น) ประธานสภากรุงเทพมหานคร และนายธราพงษ์ เพ็ชรคง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ลงพื้นที่ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุยังจุดเกิดเหตุ ส่วนแนวทางปฏิบัติการ เตรียมใช้โฟมประกอบน้ำ ฉีดเข้าจุดที่ยังคงมีเพลิงปะทุคาดว่าจะควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในวงจำกัดได้ภายในช่วงเที่ยงวันนี้   ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงระบุว่า ต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นใต้ดิน แต่ยังไม่สามารถลงไปได้ เนื่องจากมีกลุ่มควันและความร้อนสูง จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ หน้ากากออกซิเจน […]

กทม.ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง.

กรุงเทพฯ 12 พ.ค. – กทม. ประกาศยุติการค้นหาผู้สูญหายใต้ซากตึก สตง. ด้านรองผู้ว่าฯ กทม. สั่งลดระดับกองปูนซากตึกข้างศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง จาก 9 เมตร เหลือ 6 เมตร ป้องกันอันตรายและง่ายต่อการค้นหาหากมีชิ้นส่วนที่เหลือติดค้างอยู่ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา (12 พ.ค. 68) ที่กองอำนวยกาารร่วม สน.บางซื่อ ห้างสรรพสินค้าเจเจมอลล์ ถ.กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประกาศยุติค้นหาผู้สูญหายจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม รศ.ทวิดา เปิดเผยว่า วันนี้การค้นหาผู้ติดค้างภายในซากอาคารดังกล่าวยุติทั้งหมดแล้ว และเวลา 17.00 น. วันนี้ ทีมสุนัข K9 จะเข้าสำรวจความชัดเจนบริเวณกองซากวัสดุอาคาร สตง. หลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้เเน่ใจว่าจะไม่มีชิ้นส่วนมนุษย์หลงเหลืออยู่แล้ว ส่วนด้านเครื่องจักรในพื้นที่จะยังคงทำงานอยู่ เนื่องจากจะมีการขนซากเศษปูนที่อยู่ตรงโซน A ทั้งหมด ย้ายออกไปหลังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยในเวลา […]

ไทยตอนบนยังเผชิญพายุฤดูร้อน ฝนตก-ลมแรง

กทม. 12 พ.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยตอนบนยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก และไม่ควรอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทย และทะเลจีนใต้เข้าปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สภาวะอากาศที่มีผลต่อการสะสมฝุ่นละอองในระยะนี้: การสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์น้อยถึงปานกลาง โดยมีแนวโน้มลดลงหรือคงที่ เนื่องจากยังคงมีฝนตกหลายพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว .-สำนักข่าวไทย