“บิ๊กต่าย” สั่งระดมเร่งสอบปากคำผู้เสียหายจากบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป

กองปราบฯ 10 ต.ค.-“บิ๊กต่าย” สั่งระดมตำรวจสอบสวนกลาง เร่งสอบปากคำผู้เสียหายจากบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เพื่อนำมาศึกษาว่าเข้าข่ายความผิดใดบ้าง และหน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ พร้อมประสาน ปปง. ใช้อำนาจอายัดทรัพย์เจ้าของบริษัทก่อน


พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. เข้าร่วมประชุมติดตาม พร้อมเรียกตำรวจสอบสวนกลางทั้งหมดร่วมรับฟังคดี น.ส.กรกนก หรือ แม่ตั๊ก และนายกานต์พล หรือ ป๋าเบียร์ หลอกขายทองไม่ได้มาตรฐาน และคดีบริษัทขายตรงแห่งหนึ่งที่มีดาราเป็นผู้บริหาร พร้อมเข้าพูดคุยกับผู้เสียหายที่เดินทางเข้ามาให้ปากคำที่ศูนย์รับแจ้งความคดีบริษัทขายตรงบนชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์

ภายหลังจากการประชุม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวกับสื่อมวลชนว่า สำหรับคดีของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ได้ทำการจัดตั้งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนไว้ที่ บก.ปคบ. ซึ่งในวันนี้ตนเดินทางมาเพื่อดูว่ามีผู้เสียหายจำนวนมากน้อยแค่ไหน และระดมกำลังพนักงานสอบสวนจาก บช.ก. ทั้งหมดให้เข้ามาสอบสวนในเรื่องนี้ด้วย โดยข้อมูลเบื้องต้นที่ได้จากผู้เสียหายที่ทำการสอบไปแล้ว 80 ปาก ได้แจ้งว่าผู้ถูกกล่าวหาได้มีการชักชวนให้ทำธุรกิจ โดยเป็นตัวแทนของบริษัทมีการให้อบรมเสียค่าอบรม จากนั้นเข้าสู่กระบวนการเปิดเครดิต และอัพเกรดเป็นขั้นบันไดเริ่มจาก 2,500, 25,000 และ 250,000 บาท ก็มีความเป็นไปได้ที่บริษัทดังกล่าวจะเข้าข่ายความผิดที่เกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจการขายตรง แชร์ลูกโซ่ หรือการหลอกร่วมลงทุน โดยรวมมูลค่าความเสียหายที่สอบสวนทั้ง 80 คน อยู่ที่ 31 ล้านบาท


ในส่วนเรื่องดาราที่ปรากฏตามสื่อว่าเป็นผู้บริหาร หรือที่เป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น หากพบว่ามีการสนับสนุนความผิดและเป็นตัวการความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายไม่มีละเว้นใครทั้งสิ้น ดังนั้นทางดาราและศิลปินที่มาไลฟ์ หรือช่วยโฆษณาสินค้า ก็จะดูข้อเท็จจริงในเบื้องต้นก่อนว่าเข้าข่ายความผิดใดและอยู่ในระดับที่ทางตำรวจจะพิจารณาความผิดนั้นมากน้อยแค่ไหน

สิ่งแรกที่ต้องทำตอนนี้คือสอบสวนผู้เสียหายและรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานก่อน โดยจะใช้เวลาเร็วที่สุดประมาณ 2-3 วัน ที่จะสามารถพิสูจน์ให้ได้ข้อเท็จจริง จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบข้อกฎหมาย คาดว่าไม่เกินสัปดาห์ที่จะพบว่ามีความผิดในฐานใด ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการออกหมายเรียก หากไม่มาก็ออกหมายจับ ขณะนี้ตนให้ความสำคัญเรื่องเงินเป็นหลักด้วย แต่ตำรวจไม่มีอำนาจไปยึดทรัพย์ ดังนั้นทางตำรวจจะส่งเรื่องไปที่ ปปง. โดยมุ่งเป้าไปที่ตัวเจ้าของบริษัทก่อน โดยให้ ปปง.ใช้อำนาจอายัดทรัพย์ทั้งหมดไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม ทางผู้ถูกกล่าวหาก็สามารถแสดงให้เห็นได้ว่าทรัพย์ดังกล่าวไม่ใช่ทรัพย์จากการกระทำความผิด แต่หากพบแล้วว่ามีการกระทำความผิดก็จะเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องและเฉลี่ยทรัพย์คืน นอกจากนี้ในส่วนดาราที่ได้รับเงินเดือนจากบริษัทดังกล่าวจะถูกอายัดทรัพย์สินด้วยหรือไม่ ก็ต้องดูว่ามีส่วนร่วมกระทำความผิดหรือเป็นตัวการในการกระทำความผิดร่วมกันหรือไม่ ถ้าข้อเท็จจริงปรากฏก็ยืนยันว่าจะโดนอายัดทรัพย์ทุกรายไม่มีละเว้น นอกจากนี้ในกรณีเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่มีกลุ่มทนายความเคยยื่นคำร้องขอให้ทาง บก.ปคบ. ดำเนินการตรวจสอบว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เข้าข่ายกระทำความผิดในเรื่องดังกล่าว ก็จะให้ทาง พล.ต.ท.อัคราเดช ตรวจสอบเพิ่มเติมว่าทาง บก.ปคบ.มีการดำเนินการไปแล้วอย่างไรบ้าง

สำหรับที่มีกระแสข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตจากเคสดังกล่าว จะมีการสอบปากคำทางด้านญาติผู้เสียชีวิตหรือไม่นั้น ต้องเรียนว่าขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิต ต้องตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงก่อน ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ในระบบหรือสายตรง 1599 หรือแจ้งผ่านศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ AOC หรือสามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจใดก็ได้ หรือจะมาที่ บช.ก.ได้เลย


สำหรับกรณีคดีแม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ ขณะนี้ได้มีการอายัดทรัพย์ทั้งคู่ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์ที่อายัดไว้มีมูลค่ามากกว่าความเสียหาย อย่างไรก็ตาม สำหรับ 2 คดีดังกล่าวมีลักษณะคล้ายคลึงกันในบางส่วน ดังนั้นจึงมอบหมายให้กับ พล.ต.ท.อัคราเดช ให้ลงมาควบคุมกำชับดูแลทั้งสองคดีนี้. -414- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]