สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 8 ม.ค.-นายกฯ เปิดหลักสูตรพัฒนาผู้บริหารระดับสูง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ – ปลุก “บิ๊กเอกชน” อยู่ยอดพีระมิด สามารถทำเพื่อประเทศได้ เตรียมนอนค้างคืนสามจังหวัดชายแดนใต้
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Thailand’s Future : อนาคตประเทศไทย” โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมถึงหัวหน้าหน่วยงานรัฐ และภาคเอกชน เข้าร่วม
นายกรัฐมนตรี เดินทักทายผู้เข้าร่วมอบรม และพูดคุยกับ พล.ต.ต.ชุมพล ศักดิ์สุรีย์มงคล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบก.สส.จชต.) ช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เดือนหน้าจะลงพื้นที่ไปนอนสัก 2 คืน ที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษประเด็นอนาคตประเทศไทย ในช่วงต้นกล่าวว่า ตนขอบคุณ พล.ต.อ วิษณุ ปราสาททองโอสถ ผู้อำนวยการโครงการฝึกอบรม ที่เป็นเพื่อนกับตนมาตั้งแต่เด็กและเป็นมิตรกันยาวนาน ดีใจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีการจัดหลักสูตรนี้ขึ้นมา ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ดี และที่ผ่านมาได้มีการทำประโยชน์ให้กับสังคมมากมาย และมีจุดประสงค์ชัดเจน โดยจะไม่ได้มีการเข้าใจผิดอย่างแน่นอนว่าเรามาอยู่ด้วยกันตรงนี้เพื่ออะไร ซึ่งรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนมาพูดในวันนี้
“เชื่อว่าทุกคนที่มาในนี้ก็เป็นผู้บริหารระดับสูงภาคเอกชน พวกเราอยู่บนยอดพีระมิดที่สามารถทำได้อีกมากมาย เพื่ออนาคตของประเทศชาติที่สดใสและอนาคตของประเทศชาติ เพราะอนาคตของประเทศชาติอยู่ในมือของพวกท่าน ดังนัันขอให้ต่อยอด เนื่องจากหลักสูตรดังกล่าวที่อยู่มา 6 ปีแล้ว และจะต้องทำต่อไป เพราะยังมีอีกหลายเรื่องที่เราจะต้องทำ ผมขอใช้คำว่า พวกเราที่อยู่บนยอดพีระมิดว่าสามารถทำได้”นายเศรษฐา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับภาคเอกชนที่เข้าร่วมในครั้งนี้ อาทิ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ,นายกิตติชัย รักตะกนิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท ล็อกซเล่ย์ฯ นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนด์ซีส์ จำกัด , นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สโคป จำกัด เป็นต้น..-313.-สำนักข่าวไทย