19 ต.ค.- ก.คลัง ยอมเลื่อนแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท พร้อมแจงนายกรัฐมนตรี ขอเวลาวางระบบบล็อกเชนให้ปลอดภัย ป้องกันแฮกเกอร์ ย้ำต้องยืนยันตัวตน ไม่ต้องลงทะเบียน พร้อมอุดช่องโหว่ ป้องกันทุจริตใช้เงิน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การประชุมอนุกรรมการโอนเงิน ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ในวันนี้ต้องเลื่อนออกไป เนื่องจากคณะทำงานยังไม่ได้ข้อสรุปงานบางส่วน ยอมรับว่าการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ต้องจัดทำระบบบล็อกเชนขึ้นใหม่ ผ่านแอปพลิเคชันของรัฐ รองรับการจัดเก็บข้อมูล Big Data ในการจัดทำสวัสดิการทุกด้านของรัฐ จึงต้องใช้เวลาทดสอบระบบ เพื่อให้ระบบบล็อกเชน มีความปลอดภัย มีเสถียรภาพ มีระบบป้องกันแฮกเกอร์ เข้ามาล้วงข้อมูลของรัฐ
เมื่อนายกรัฐมนตรี กำหนดโอนเงินดิจิทัลให้กับประชาชน 1 ก.พ. 67 จึงต้องนำเรื่องเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาถึงเหตุผลการเลื่อนเวลาออกไป เมื่อวางระบบพร้อมแล้ว จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนยืนยันตัวตนผ่านระบบ KYC ตามแบงก์รัฐ หลังจากที่ผ่านมามีประชาชนยืนยันตัวตนเพื่อรับบริการสวัสดิการต่างๆ กับภาครัฐไปแล้ว 40 ล้านคน ยังเหลืออีก 10 ล้านคน ต้องยืนยันตัวตน เมื่อต้องการให้เข้าระบบอีกครั้ง เพื่อกดยืนยันรับสิทธิ์ร่วมโครงการ อาจต้องกำหนดกรอบเวลาให้ประชาชนยืนยันตัวตนกับแบงก์รัฐอีกครั้ง เบื้องต้นมีเป้าหมาย 5.48 ล้านคน ต้องใช้เงินประมาณ 5.48 แสนล้านบาท
การจัดทำแอปพลิเคชันของรัฐ จะทยอยพัฒนาเป็นระยะ เบื้องต้นเริ่มโอนเงินได้ประมาณไตรมาสแรกปี 67 การใช้เงินจะไม่ยุ่งยากสำหรับประชาชน ด้วยการใช้สมาร์ทโฟน แสกน QR- Code เพื่อซื้อสินค้าเหมือนที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบ ในช่วงเศรษฐกิจไทยชะลอตัว และเงินงบประมาณปี 67 ออกสู่ระบบล่าช้า กระทรวงคลังยืนยันจะไม่มีระบบการลงทะเบียน แต่จะใช้การกดรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการเหมือนเคยดำเนินมาตรการรัฐช่วงที่ผ่านมา
กระทรวงคลัง ยังร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคง ป้องกันการใช้เงินผิดเงื่อนไข ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ทั้งซื้อสุรา หรือข้อห้ามต่างๆ รวมถึงการยอมโอนเงินดิจิทัลให้ร้านค้า เพื่อรับเงิน 8 พันบาท ยืนยันระบบบล็อกเชน ปลอดภัย ตามเช็กการรับโอน การใช้เงินได้อย่างละเอียด เพราะเงินทุกบาท โอนให้กับประชาชนโดยตรง เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่มีสิทธิ์เข้าไปใช้เงินดังกล่าวได้ รัฐบาล ยังพร้อมชี้แจงทุกเวที ทุกหน่วยงาน ทั้ง สตง. ปปช. กรรมาธิการของรัฐสภาชุดต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล รับฟังความเห็น ให้คลายความสงสัย
นายจุลพันธ์ ยืนยันการจัดทำแอปฯ ระบบใหม่ใช้เงินไม่ 12,000 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าว เพราะการพัฒนาแอปพลิเคชันทั่วไป หลายหน่วยงานรับรู้ใช้เงินทุนจำนวนไม่มากนัก จึงเป็นข่าวที่ไม่ทราบแหล่งที่มา และข้อย้ำไม่ได้กู้เงินทั้งจำนวน 5.6 แสนล้านบาท เพราะยังไม่ได้ข้อสรุปแหล่งที่มาของเงินดิจิทัลวอลเล็ต ต้องหารือเพิ่มเติมหลายรอบ เมื่อได้ข้อสรุป จะเสนอคณะกรรมกรรมการชุดใหญ่ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน .-สำนักข่าวไทย