พรรคก้าวไกล 20 ก.ค. – “ชัยธวัช” นั่งหัวโต๊ะหารือ กก.บห.-สส.พรรคก้าวไกล เผยยังไม่ได้ข้อสรุปลดเพดาน 112 ให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่ ต้องประชุมภายในก่อน ต้องชัดเจน 1-2 วัน ปัดตอบกระบวนการเตะ “ก้าวไกล” ออกจาก 8 พรรค ประชาชนอยากเห็นสูตรพลิกขั้วฝ่ายค้านเดิมมาบริหารประเทศ ชี้ช่องประชาชนยื่นศาล รธน. ตีความข้อบังคับ 41 ให้เสนอ “พิธา” ซ้ำได้
นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล เดินทางมาเข้าร่วมประชุมกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรค โดยให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มประชุมว่า จะมีการหารือกันถึงแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลหลังจากนี้ ส่วนที่ไปคุยกับเพื่อไทยก็เพื่อประเมินสถานการณ์ร่วมกันว่าจะประเมินแต่ละฉากทัศน์อย่างไรบ้าง ส่วนทิศทางเรื่องหลัก ยืนยันว่าคงต้องพยายามจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคให้สำเร็จ
ส่วนมีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไปจะเสนอชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย หรือให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายชัยธวัช ระบุว่า เรื่องนี้จะเป็นการสรุปโดยจะต้องผ่านการประชุม สส. และกรรมการบริหารพรรคในวันนี้ก่อน ในการกระบวนจัดตั้งรัฐบาล นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่าจะไม่เสนอแก้ไข ม.112 นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า ยังไม่ได้คุยกันเลย และขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปอะไร
เมื่อถามว่าดูแนวโน้มแล้วการประชุมครั้งหน้าจะเป็นการประชุมที่พลิกจากพรรคเพื่อไทยมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเลยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า จริงๆ นายพิธาเคยแถลงไว้ ถ้าประเมินแล้วโอกาสที่พรรคก้าวไกลจะได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นไปไม่ได้จริงๆ ก็ต้องเปิดโอกาสให้กับประเทศ โดยอยู่ในกรอบการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน 8 พรรค และทำตาม MOU ที่ทำร่วมกันไว้ เมื่อถามว่าต้องแก้ MOU อย่างไรบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไปไม่ถึงขั้นตอนนั้น
ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจริง นโยบายเบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท และนโยบายการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร จะต้องถูกนำไปใช้ด้วยหรือไม่ ก็ยังไม่ได้คุยรายละเอียดกันเลย ซึ่งทิศทางหลังจากนี้ได้พูดคุยกับนายพิธาหรือไม่นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า ได้คุยกันอยู่
เมื่อถามว่านายพิธาเป็นอย่างไรบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังจิตใจดี แข็งแรงดี นายพิธายังไม่ได้พักผ่อน เพราะฉะนั้น 1-2 วันนี้ เลยขอไปพักผ่อนกับลูกสาว และจะกลับมาทำงานอีกครั้งในวันเสาร์นี้
ส่วนการประชุมกับแกนนำ 8 พรรคร่วมครั้งต่อไปจะได้สัญญาณที่ชัดเจนหรือไม่นั้น นายชัยธวัช ระบุว่า วันสองวันนี้คงต้องชัดเจน เพราะเวลาในการทำงานมีจำกัด
เมื่อถามว่ามีการวิเคราะห์กันว่าการจะผลักพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน มีโอกาสมากน้อยแค่ไหน นายชัยธวัช กล่าวว่า เราก็ยังมองว่าคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนและสำหรับประเทศ คือการเกิดการพลิกขั้วรัฐบาลจากสมัยที่แล้ว โดยชัดเจนว่าต้องการให้พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาลและมาบริหารประเทศ ก็คงทำให้ดีที่สุด ส่วนที่มีเสียงที่บอกว่าถ้ามีการเสนอนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย แต่มีพรรคก้าวไกลอยู่ก็จะไม่โหวตให้นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ขออย่าเพิ่งรีบสรุปไป
ส่วนการเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้ตามที่มีนักวิชาการแนะนำ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องเป็นเรื่องของที่ประชุม สส. และที่ประชุมกรรมการบริหารจะประชุมกัน และจะถือเป็นวาระหลักที่ต้องพูดคุยกันในวันนี้ด้วย
สำหรับกรณีที่นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวไว้ว่าไม่สามารถเสนอชื่อซ้ำได้นั้น นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ขนาดนั้น ส่วนเหตุการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงทำให้ไม่เข้าข้อบังคับที่ 41 เพื่อให้เสนอชื่อนายพิธาได้อีกนั้น ที่ต้องลองดู ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ควรเข้าข้อบังคับที่ 41 แต่เพราะมีการพยายามไปตีความว่าเข้าข้อบังคับที่ 41 ทำให้มองว่าไม่ค่อยสมเหตุสมผล ข้อบังคับที่ 41 ใช้กับญัตติทั่วไปจริงๆ ซึ่งหลังจากที่สภาฯ มีมติไปแล้วเมื่อวานนี้ แม้แต่นักกฎหมายที่อาจจะดูเป็นคนฝ่ายกับฝ่ายประชาธิปไตย ก็ยังรับไม่ได้ ถือว่าเป็นการลงมติที่เป็นปัญหาจริงๆ สำหรับสภาฯ ชุดนี้ แต่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่นั้น ยังไม่ได้พูดคุยกันในพรรค แต่ประชาชนสามารถไปยื่นได้
ส่วนการประชุมแกนนำ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลครั้งต่อไปจะมีการประชุมภายในสัปดาห์หน้า ก่อนการประชุมรัฐสภา ในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้.-สำนักข่าวไทย