นนทบุรี 23 ม.ค. – “ชัยวัฒน์” เผยนำหลักฐานการข่มขู่พยานในคดีอธิบดีกรมอุทยานฯ เรียกรับสินบน โดยมีผู้อ้างว่าเป็นบริวารใกล้ชิดของผู้ถูกร้องโทรศัพท์หรือส่งข้อความคุกคามหัวหน้าหน่วยงานที่ต้องมาให้การเป็นพยานในคดี พร้อมขอให้ ป.ป.ช. เร่งรัดการสอบสวนให้เสร็จใน 30 วัน เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเจ้าหน้าที่ อีกทั้งพยานหลักฐานในคดีครบถ้วนแน่นหนา
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กล่าวภายหลังเข้าให้ปากคำในฐานะพยานต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีที่นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา โดยระบุว่า นำเอกสารหลักฐานมาแสดงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการข่มขู่เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าหน่วยงานหลายคน
ทั้งนี้ หลังจากที่อธิบดีกรมอุทยานฯ ถูกจับกุม มีคนสนิทของอธิบดีโทรศัพท์กดดันผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ต่างๆ โดยอ้างว่าเป็นบริวารใกล้ชิดและยังมีอำนาจอยู่ จึงให้ผู้อำนวยการสำนักแจ้งแก่ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ผู้อำนวยการส่วนจัดการต้นน้ำ ผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ ผู้อำนวยการส่วนโครงการพระราชดำริและกิจการพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หัวหน้าหน่วยจัดการต้นน้ำ หัวหน้าสถานีควบคุมฟป่า หัวหน้าโครงการพระราชดำริว่า หากมีเจ้าหน้าที่เรียกสอบให้ให้การว่า เงินที่พบในห้องทำงานอธิบดี เป็นเงินที่รวบรวมส่งให้ฝ่ายบริหารเพื่อระดมทุนเข้ามาช่วยเหลือในกองทุนต่างๆ เช่น กองทุนช่วยเหลือแก้ไขปัญหาช้างป่า ค่าบูชาบรมรูปจำลอง รัชกาลที่ 5 ซึ่งมีการบูชากันเมื่อไม่นานมานี้ ค่าสมทบทุนสร้างพระซึ่งอธิบดีมีแนวคิดจะสร้างพระ หรือกองทุนสนับสนุนเครือข่ายแก้ไขปัญหาไฟป่า จึงต้องการให้ ป.ป.ช. เร่งรัดสรุปสำนวนเพื่อดำเนินคดีภายใน 30 วันเพราะพยานหลักฐานต่างๆ ครบถ้วนแน่นหนา การดำเนินคดีโดยเร็วจะช่วยให้เรื่องนี้ไม่ยืดเยื้อเพื่อช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย