ประจวบคีรีขันธ์ 19 ธ.ค. – เหตุเรือหลวงสุโขทัยจมลงกลางทะเลอ่าวไทย หลังเผชิญคลื่นลมแรง ล่าสุดสามารถช่วยเหลือกำลังพลได้แล้ว 75 นาย และอยู่ระหว่างติดตามช่วยเหลืออีก 31 นาย
เมื่อวานช่วงเวลาประมาณ 18.45 น. ขณะที่เรือหลวงสุโขทัย กำลังลาดตระเวน ห่างจากฝั่ง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 20 ไมล์ ได้เกิดเหตุน้ำเข้าเรือ เนื่องจากสภาพคลื่นลมในทะเลแรง ทำให้เครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยที่อยู่บนเรือขัดข้องไม่สามารถใช้การได้ จนน้ำเข้าเรืออย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งขอความช่วยเหลือไปยังศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือเรือและอากาศยานที่ประสบภัยในทะเล จากนั้นเรือหลวงกระบุรี ได้ออกเดินทางไปช่วยเหลือ เพื่อลำเลียงกำลังพลออกมา โดยมีเรือหลวงภูมิพล และเรือหลวงอ่างทอง ตามไปสมทบ และยังให้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งเข้าช่วยเหลือ กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 20.45 น. เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือลูกเรือ ทั้งหมด 106 นาย ขึ้นแพชูชีพได้อย่างปลอดภัย
ต่อมาเมื่อเวลา 23.30 น. สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ รายงานว่า เรือหลวงสุโขทัยได้จมลงใต้ผิวน้ำแล้ว หลังเจ้าหน้าที่พยายามที่จะเข้ากอบกู้สถานการณ์แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากคลื่นลมที่ยังคงแรงมาก ส่วนกำลังพลทั้งหมดปลอดภัย โดยอยู่ในระหว่างการลำเลียงขึ้นบนเรือหลวงกระบุรี ส่วนสาเหตุที่เรือหลวงสุโขทัยเอียง เนื่องจากขณะนั้นบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง จนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ จนทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ และส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงานเป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็ว จนทำให้เรือเอียง
เรือหลวงสุโขทัย นำกำลังพลจากอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ไปร่วมงานครบรอบ 100 ปี กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ “เสด็จเตี่ย” ที่จังหวัดชุมพร ในวันที่ 19 ธันวาคม แต่ระหว่างแล่นออกมาได้เกิดเหตุขึ้น ทั้งนี้ หลังจากที่เรือหลวงสุโขทัยจมลง ได้มีการลำเลียงกำลังพลขึ้นเรือหลวงกระบุรี และเรืออื่นๆ ที่เข้าช่วยเหลือ และพยายามเข้าเทียบที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกบางสะพาน แต่เนื่องจากคลื่นลมแรงมาก จึงต้องจอดลอยลำหน้าท่าเทียบเรือ โดยมีทีมกู้ชีพของโรงพยาบาลกู้ภัยของมูลนิธิต่างๆ ใน จ.ประจวบฯ กว่า 20 ทีม และกำลังพลกว่า 100 นาย ได้รอรับทหารที่ประสบภัย นอกจากนี้ได้จัดเตรียมรถบัสไว้ 2 คัน เพื่อลำเรียงทหารเรือที่ประสบภัยเดินทางไปยังโรงพยาบาลบางสะพาน, โรงพยายาบบาลสะพานนน้อย, โรงพยาบาลทับสะแก และโรงยาบาลประจวบคีรีขันธ์
ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่สามารถนำลูกเรือเรือหลวงสุโขทัยรวม 75 นายขึ้นฝั่ง โดยได้รับการช่วยเหลือจากเรือหลวงกะบุรี เรือบรรทุกน้ำมันสี่ไชยา, เรือประจวบ 5, และเรือประจวบ 4 ของท่าเรือประจวบ โดยในจำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บขาหัก 1 นาย และนิ้วมือหักอีก 1 นาย เจ้าหน้าที่นำทั้งหมดส่งโรงพยาบาลบางสะพาน โรงพยาบาลบางสะพานน้อย โรงพยาบาลทับสะแก และโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
น.อ.เรืองฤทธิ์ แสงแก้ว รอง ผอ.ศรชล.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เปิดเผยว่า สำหรับลูกเรืออีก 31 นาย ที่ยังไม่พบ ขณะนี้กองทัพเรืองเรือ ได้สั่งการให้เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพล เรือหลวงระบุรี ออกจากท่าเรือน้ำลึกบางสะพาน มุ่งหน้าไปจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจมทะเล เพื่อค้นหาอีก 31 นาย ที่ยังลอยคออยู่ในที่ทะเล ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น ภาวะคลื่นลมในทะเลยังทวีความรุนแรงต่อเนื่อง
พลทหาร ธันวา ศรีมงคล อายุ 25 ปี หนึ่งในผู้ประสบเหตุลูกเรือรบหลวงสุโขทัย กล่าวว่า ในขณะเกิดเหตุคลื่นลมแรงมาก ตนเองได้ลงเรือยางกับทหารด้วยกันหลายคน และต่อมาได้รับความช่วยเหลือจนปลอดภัย ส่วนเพื่อทหารด้วยกันหลายคนที่อยู่ในทะเล ยังไม่ทราบว่าได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาหรือยัง
เรือหลวงสุโขทัย เป็นเรือหมายเลข 442 วางกระดูกงู 26 มี.ค. 2527 ขึ้นระวางประจำการ 19 ก.พ.2530 สร้างโดย Tacoma Boat Building Co, สหรัฐอเมริกา มีความยาวตลอดลำ 76.8 เมตร กว้าง 9.6 เมตร กินน้ำลึก 4.5 เมตร ความเร็วมัธยัสถ์ 18 นอต ความเร็วสูงสุด 24 นอต ระวางขับน้ำปกติ 840 ตัน ระวางขับน้ำสูงสุด 960 ตัน ระยะปฏิบัติการไกลสุด 3,568 ไมล์ กำลังพลประจำเรือ 87 นาย “เรือหลวงสุโขทัย” ใช้งานมาแล้ว 35 ปี ก่อนล่มกลางอ่าวไทย
พล.ร.อ.ปกครอง มณธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถช่วยเหลือกำลังพลได้แล้ว จำนวน 75 นาย ปลอดภัยดี และอยู่ระหว่างการติดตามช่วยเหลืออีก 31 นาย ทั้งนี้ มีรายงานว่าเวลาประมาณ 11.00 น. พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ จะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากอ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ไปยังพื้นที่เกิดเหตุที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์. -สำนักข่าวไทย