ข่าวดี…ของขวัญปีใหม่ ตรึงค่าไฟบ้าน ส่วนอื่นๆ ขยับขึ้น 21%

กรุงเทพฯ 15 ธ.ค.-ข่าวดี ของขวัญปีใหม่ หลัง กพช.สั่งปรับสูตรการใช้ก๊าซฯ สำหรับค่าไฟฟ้า งวดใหม่ (ม.ค.-เม.ย.66) กกพ.ปรับค่าเอฟทีใหม่ ตรึงค่าไฟฟ้าบ้าน แต่ส่วนอื่นๆ รวมทั้ง อุตสาหกรรมขึ้น 21% ด้านเอกชนเตรียมยื่นหนังสือ นายกฯ ทบทวน ให้ยกเงินคืนหนี้ กฟผ. 33 สตางค์ออกไปก่อน


นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่าหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมครั้งที่ 8/2565 (ครั้งที่ 163) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ได้มีมติเห็นชอบแนวทางบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงวิกฤตราคาพลังงาน ม.ค. – เม.ย. 66 โดย “ให้จัดสรรก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยหลังโรงแยกก๊าซฯ เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยเป็นลำดับแรก ในปริมาณที่ไม่เพิ่มภาระอัตราค่าไฟฟ้าจากปัจจุบัน โดยมอบหมายให้ กกพ. ไปคำนวณอัตราค่าเอฟที (Ft) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ตั้งแต่ใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2566” และ “ให้ ปตท. ร่วมกับ กฟผ. บริหารจัดการผลกระทบราคาก๊าซธรรมชาติต่อค่าไฟฟ้า โดยให้ ปตท. คิดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) และผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) ในระดับราคาเดียวกับที่ใช้ประมาณการค่าไฟฟ้าตามสูตรปรับอัตราค่า Ft ตั้งแต่เดือนที่ กพช. มีมติเป็นต้นไป และให้นำส่วนต่างของราคาก๊าซธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นจริงกับราคาก๊าซธรรมที่เรียกเก็บดังกล่าวไปทยอยเรียกเก็บคืนในการคำนวณค่า Ft รอบถัดไป” และได้รับแจ้งมติดังกล่าวมายังสำนักงาน กกพ. เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2565 แล้วนั้น

กกพ. จึงจำเป็นต้องปรับปรุงแนวทางการคำนวณค่า Ft ประจำเดือนมกราคม – เมษายน 2566 ที่ได้รับฟังความเห็นไปแล้วให้สอดคล้องกับมติดังกล่าว โดยมีการปรับปรุง ดังนี้


1. ให้ ปตท. ทบทวนการประมาณการราคาก๊าซธรรมชาติใหม่อีกครั้งให้สอดคล้องกับมติ กพช. และแนวทางการบริหารเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของกระทรวงพลังงาน เช่น (1) เพิ่มการใช้น้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาเพื่อทดแทนการนำเข้า LNG ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงในตลาดโลกและความสามารถในการขนส่งน้ำมันดีเซลให้กับโรงไฟฟ้า (2) เพิ่มปริมาณก๊าซในอ่าวไทยในการผลิตไฟฟ้าโดยลดปริมาณก๊าซอ่าวไทยเข้าโรงแยกก๊าซ แล้วส่งมาผลิตไฟฟ้าเพื่อทดแทนการลดลงของก๊าซธรรมชาติในสหภาพพม่า (3) ปรับปรุงสมมุติฐานราคานำเข้า LNG Spot อ้างอิงตามแนวโน้มที่ดีขึ้น และ (4) เดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะ หน่วยที่ 4 ที่ปลดแล้วตามความจำเป็น เป็นต้น การดำเนินการดังกล่าวส่งผลให้ประมาณการราคา Pool Gas ลดลงจาก 552 บาทต่อล้านบีทียู เป็น 493 บาทต่อล้านบีทียู  ต่อมาจึงคำนวณโดยแบ่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยหลังโรงแยกฯ เพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าให้บ้านอยู่อาศัยก่อน ทำให้บ้านอยู่อาศัยสามารถใช้ก๊าซในราคา 238 บาทต่อล้านบีทียู และจัดสรรก๊าซธรรมชาติอ่าวไทยส่วนที่เหลือรวมกับก๊าซจากสหภาพพม่าและ LNG สำหรับผู้ใช้ก๊าซรายอื่นๆ (Pool Gas ส่วนเหลือ) ในราคา 542 บาทต่อล้านบีทียู

2.ให้ กฟผ.ปรับสมมุติฐานราคาเชื้อเพลิงตามแนวทางการบริหารเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าของกระทรวงพลังงานและมติ กพช. โดยปรับการคำนวณ Ft ใหม่โดยใช้ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยในราคา 238 บาทต่อล้านบีทียูแทนทดแทนราคาก๊าซธรรมชาติเดิมสำหรับการคิดค่า Ft ในกลุ่มบ้านอยู่อาศัยและใช้ราคาก๊าซธรรมชาติส่วนที่เหลือ (Pool Gas ส่วนเหลือ) ในราคา 542 บาทต่อล้านบีทียูทดแทนราคาก๊าซธรรมชาติเดิมสำหรับสำหรับการคิดค่า Ft ให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ

3. กกพ. พิจารณาภาระการเงินและภาระหนี้สินสะสมของ กฟผ. ให้มีการทยอยจ่ายคืนหนี้ Ft คงค้างเพื่อไม่ให้เป็นภาระปัญหาสภาพคล่องของ กฟผ. และไม่เกิดภาระต่อผู้ใช้ไฟฟ้ามากเกินไป โดย กฟผ. ขอเสนอให้เฉลี่ยยอดหนี้ ณเดือนสิงหาคม 2565 จำนวน 122,257 ล้านบาท โดยเฉลี่ยการเรียกเก็บไปเป็นเวลา 2 ปี หรือ 6 งวด โดย งวดนี้ มีการชำระหนี้คืน กฟผ. 33 สตางค์ต่อหน่วย 


ดังนั้น กกพ. จึงจัดประชุมครั้งที่ 58/2565 (ครั้งที่ 825) เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 พิจารณาผลการคำนวณค่า Ft ตามหลักการดังกล่าว และเห็นชอบว่า งวดเดือน มกราคม – เมษายน 2566  ค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่อัตรา 93.43 สตางค์ต่อหน่วย   ส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นที่อัตรา 190.44 สตางค์ต่อหน่วย  ทำให้เมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐาน ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยอยู่ในระดับเท่าเดิมที่อัตรา 4.72 บาทต่อหน่วยส่วนผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นจะมีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่อัตรา 5.69 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นราว 21 %

สำหรับสมมุติฐานและการบริหารเชื้อเพลิงที่ ปตท. และ กฟผ. ปรับปรุงตามแนวทางการบริหารเชื้อเพลิงของกระทรวงพลังงานเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงวิกฤตราคาพลังงานม.ค. – เม.ย. 66 ตามมติ กพช. สรุปได้ ดังนี้  

นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าค่อนข้างผิดหวังกับมติกกพ.อย่างแรงเพราะคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ได้ส่ง สัญญาณไปแล้ว ว่าหากค่าไฟฟ้าขึ้นสูงจะกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ต้นทุนของผู้ประกอบการทั้งโรงแรม อุตสาหกรรม เกษตรกร และอื่นๆ เพิ่มขึ้น ก็ต้องผลักภาระไปยังผู้บริโภค สินค้าบริการจะขยับขึ้น กระทบต่อเงินเฟ้อ กระทบต่อความสามารถทางการแข่ง ขัน ทาง กกร.จะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนมติ กกพ. และให้ตั้งคณะทำงานทั้งภาครัฐ-เอชน มาหารือร่วมกันด่วนก่อนที่จะเริ่มเก็บค่าไฟฟ้าใหม่ในวันที่ 1 ม.ค.66 โดยขอให้อย่างน้อยเอฟทีงวดใหม่ นำเรื่องการคืนหนี้ กฟผ.ออกไปก่อนจากที่จะคืน 33 สตางค์ต่อหน่วย ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของส่วนอื่นๆยกเว้นบ้านก็จะลดลงจาก อัตรา 5.69 บาทต่อหน่วยเหลือ ราว 5.30  บาท/หน่วย และควรวางแผนร่วมกันเพราะเรื่องค่าไฟฟ้าเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยในส่วนหนี้ ของ กฟผ.ภาครัฐก็น่าจะมองถึงการใช้งบฯส่วนอื่น หรือให้ กฟผ.สามารถกู้เงินเพิ่มเสริมสภาพคล่องไปก่อน

“ค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมหากนับเพิ่มจากงวดต้นปี 64 มาถึงงวดใหม่ต้นปี 65 หากเก็บตามที่ กกพ.กำหนดก็จะขึ้นถึง 70 % จากราว 3 บาท/หน่วยเป็น 5.70 บาทต่อหน่วย กระทบหนักมาก และประเด็นนี้ส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาดการบริหารก๊าซในอ่าวไทย ก็ไม่มีผู้รับผิดชอบ อย่างไรก็ตามเมื่อปัญหามาถึงขึ้นนี้ก็อยากให้ตั้งคณะทำงานร่วมรัฐ-เอกชนมาพูดคุยวางแผนร่วมกัน”นายอิศเรศกล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่