กอ.รมน.ภาค 4 เสียใจต่อครอบครัวผู้ใหญ่บ้านที่ถูกคนร้ายยิงดับ

ปัตตานี 8 พ.ย. – กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าแถลงเสียใจต่อครอบครัวผู้ใหญ่บ้าน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังเข้าร่วมการปิดล้อมร่วมกันเจ้าหน้าที่ แต่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต


หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ชุดหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม 3 ฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าร่วมปิดล้อมพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี หลังจากสืบทราบจากแหล่งข่าวว่ามีกลุ่มต้องสงสัยคาดว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ และลอบวางระเบิดปั๊มน้ำมันบางจาก จำนวน 17 จุด เมื่อคืนของวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา จนเกิดการยิงปะทะกัน นายเจ๊ะมูหามะยากี เจ๊ะเด็ง อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ.ดอนรักจะรัง ที่เข้าร่วมปิดล้อมกับเจ้าหน้าที่ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา และมีตำรวจอีก 2 นายถูกยิงบาดเจ็บ

วันนี้ พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภ.4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ขั้นตอนการปฏิบัติในการปิดล้อมเมื่อวานนี้ได้ดำเนินการตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ด้วยการเชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนา และเครือญาติเข้าร่วมเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านยอมออกมามอบตัว แต่คนร้ายกลับยิงสวนออกมาทำให้เกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น ทำให้ที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และผู้ใหญ่บ้านที่เข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย


ส่วนผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 1 ราย คือ นายมะนาเซ ไซร์ดี อายุ 32 ปี พบอาวุธปืนยี่ห้อซิกซาวเออร์ขนาด 9 มม. ของคนร้ายตกอยู่จำนวน 1 กระบอก ตรวจสอบประวัติมีหมายจับในคดีความมั่นคง 7 หมาย ที่สำคัญคือเกี่ยวข้องกับเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดในพื้นที่ 7 จังหวัด ภาคใต้ตอนบน

หลังเกิดเหตุ พล.ท.ศานติ สกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายเจ๊ะมูหามะญากี เจ๊ะเด็ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เสียสละ กล้าหาญ เป็นผู้บำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พี่น้องประชาชน ปฏิเสธกลุ่มคนร้ายไม่ให้เข้ามาหลบซ่อนพักอาศัยภายในหมู่บ้านอีก ทั้งยังเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ในการติดตามบังคับใช้กฎหมายและเจรจากับคนร้ายเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่กลับถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้ายิงใส่ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บและตัวผู้ใหญ่บ้านเองได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของนายเจ๊ะมูหามะญากี เป็นการกระทำที่น่ายกย่องและเชิดชูเกียรติอย่างถึงที่สุด สำหรับเรื่องการจัดการศพ และการช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบและสิทธิ จะเร่งประสานให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป ส่วนผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

หลังเกิดเหตุไปเมื่อคืนวันนี้ซึ่งเป็นวันลอยกระทง ทางจังหวัดปัตตานีเพิ่มการคุมเข้มดูแลความปลอดภัยประชาชนเดินทางไปเลือกซื้อดอกไม้และกระทง รวมถึงอุปกรณ์การทำกระทงอย่างคึกคัก โดยเทศบาลเมืองปัตตานี ได้จัดงานที่ลานศิลปวัฒนธรรม ริมแม่น้ำปัตตานี ขณะเดียวกันทางจังหวัด ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มความเข้มในการตรวจตราผู้มาร่วมงาน โดยเฉพาะคนต้องสงสัย รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ต้องสงสัย โดยมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เข้าประจำการตามจุดต่าง ๆ ทั้งประตูเข้างาน รวมถึงบริเวณโดยรอบ และยังได้จัดกำลังตำรวจน้ำ ตรวจทางน้ำด้วย เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุ สร้างสถานการณ์ความไม่สงบ. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา