ศาลอาญาคดีทุจริตฯ 5 ก.ย.-ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ให้ประกัน “นิพนธ์” วงเงิน 1 แสน ไม่มีเงื่อนไข คดีไม่เซ็นจ่ายค่ารถซ่อมบำรุง นัดพิจารณาคดี 20 ต.ค.นี้
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นจำเลยความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม ป.อาญา ม.157 กรณีไม่จ่ายเงินค่าซ่อมรถบำรุงทางอเนกประสงค์ วงเงิน 50 ล้านบาท ขณะดำรงตำแหน่ง นายกอบจ.สงขลา พร้อมขอให้ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยนายนิพนธ์มาแสดงตัวต่อศาล พร้อมนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ทนายความ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลพิเคราะห์คำฟ้องโจทก์และคำคัดค้านการฟ้องคดีของจำเลยแล้ว เห็นว่า แม้คดีนี้เกิดขึ้นนอกเขตของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และพยานหลักฐานส่วนใหญ่จะอยู่ที่จังหวัดสงขลา แต่เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน และการติดต่อระหว่างศาลกับคู่ความหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีอาจกระทำโดยทางโทรสาร จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือสื่อสารทางเทคโนโลยีสารสนเทศประเภทอื่นได้ การสืบพยานสามารถถ่ายทอดภาพและเสียงในลักษณะการประชุมทางจอภาพตามข้อบังคับของประธานศาลฎีกาว่าด้วยวิธีการดำเนินคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 ข้อ 6-7 ได้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 5 วรรคสอง จึงให้ประทับรับฟ้องโจทก์เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.167/2565 และหมายขังจำเลย เว้นแต่มีประกันจำเลย
ศาลสอบจำเลยซึ่งแถลงยืนยันว่าลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วตามเอกสารท้ายคำร้องจริง ในชั้นนี้ จึงไม่พิจารณาสั่งให้จำเลยหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามคำร้องของโจทก์ สอบจำเลยแล้วแถลงว่าประสงค์ต่อสู้คดี โดยจะทำคำให้การปฏิเสธพร้อมรายละเอียดในนัดหน้า กำหนดวันนัดพิจารณาในวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 09.30 น. ส่วนเหตุที่นัดนานเนื่องจากจำเลยต้องใช้ระยะเวลาตรวจสอบเอกสารเพื่อจะได้แถลงให้ชัดเจนว่ามีข้อเท็จจริงอะไรบ้างที่จะพอรับตามพยานหลักฐานโจทก์และข้อเท็จจริงใดบ้างที่จะนำสืบต่อสู้คดี เพื่อไม่ให้การพิจารณาคดีซ้ำซ้อน อย่างไรก็ตาม คดีนี้โจทก์มิได้ทำสำเนาเอกสารประกอบการชี้ช่องนำสืบมาให้ฝ่ายจำเลย เพื่อจะได้ศึกษารายละเอียดในการต่อสู้คดี จึงให้โจทก์จัดทำสำเนาเอกสารประกอบการนำสืบมาส่งศาลภายในกำหนด 7 วัน และให้ฝ่ายจำเลยมารับเพื่อไปศึกษาต่อสู้คดี
นายวสันต์ สร้อยพิศุทธิ์ ทนายความ กล่าวว่า ศาลรับฟ้องแล้ว และอนุญาตให้ประกันตัวระหว่างการต่อสู้คดีวงเงิน 100,000 บาท โดยไม่มีเงื่อนไข
นายนิพนธ์ กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีปัญหา ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตั้งแต่แรก และหลังจากนี้จะเป็นการสู้คดีในศาล ซึ่งจะต้องนำพยานหลักฐานมาสู้กัน
เมื่อถามว่าหากระหว่างที่ศาลกำลังดำเนินคดี เป็นช่วงหาเสียงเลือกตั้งจะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา สามารถใช้สิทธิ์ทางการเมืองได้ เพราะศาลยังไม่มีคำพิพากษา รวมถึงยังไม่มีข้อหาและไม่มีข้อห้ามใด ๆ ดำเนินงานด้านการเมือง ยังมีคุณสมบัติของการสมัครเป็น ส.ส.ครบถ้วน และไม่เคยใช้เอกสิทธิ ส.ส.สู้ในชั้นศาล.-สำนักข่าวไทย