23 ก.พ. – พรรคไทยสร้างไทย เรียกร้องรัฐบาลเร่งออกมาตรการแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันปาล์มพุ่งสูงขึ้นกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและต้นทุนผู้ประกอบการ อย่างหนัก สงสัยเหตุแก้ปัญหาล่าช้าพร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบว่ามีผู้ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้หรือไม่
นางสาวตรัยฉัตร ธนสารไตรภพ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มขวดที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เป็นวงกว้าง โดยระบุว่า ปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มในตลาดพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยหลัก 2 ประการ ได้แก่ ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันลดลงจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และความต้องการน้ำมันปาล์มในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น
นางสาวตรัยฉัตร ระบุว่า การที่น้ำมันปาล์มมีราคาสูงขึ้น สร้างภาระให้กับประชาชนที่ต้องแบกรับค่าครองชีพที่สูงขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบโดยตรง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะร้านอาหารและ SME ที่พึ่งพาน้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบหลักต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้หลายรายต้องปรับราคาสินค้า หรือในบางกรณีอาจถึงขั้นต้องปิดกิจการ
รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมามาตรการแก้ไขปัญหาด้านสินค้าเกษตรของรัฐบาลยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ โดยยกตัวอย่างจากการรับมือปัญหาม็อบเกษตรกรที่ไม่สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอาจต้องแสดงความรับผิดชอบหากปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทยเรียกร้องให้ สส. ในพื้นที่ของรัฐบาล โดยเฉพาะผู้ที่ดำรงตำแหน่งในกระทรวงพาณิชย์ ออกมาแสดงจุดยืนและสะท้อนปัญหาเรื่องค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นของประชาชน พร้อมผลักดันมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ภาครัฐตรวจสอบและเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนรับทราบว่า มีใครได้รับผลประโยชน์จากสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มที่พุ่งสูงขึ้นหรือไม่ และควรมีมาตรการดูแลราคาอย่างเป็นธรรม ไม่ให้เกิดการเอาเปรียบผู้บริโภค พร้อมกำหนดนโยบายที่ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ซ้ำอีกในอนาคต
“ถ้ายังไม่มีมาตรการออกมาดูแลราคาน้ำมันปาล์มอย่างจริงจัง ขอให้ประชาชนจับตาดูว่า มีใครแอบได้ผลประโยชน์อยู่เบื้องหลังหรือไม่” นางสาวตรัยฉัตรกล่าว .-312-สำนักข่าวไทย