คุม “พิ้งกี้” กับเเม่ เข้าเรือนจำ ศาลไม่ให้ประกัน คดีเเชร์ Forex 3D

กทม. 18 ส.ค.-เจ้าหน้าที่คุมตัว “พิ้งกี้ สาวิกา” กับเเม่ เข้าเรือนจำ หลังศาลไม่ให้ประกัน คดีหลอกร่วมลงทุนเเชร์ Forex 3D เสียหายกว่า 2 พันล้านบาท อ่าน

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 65 ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักอัยการคดีพิเศษ 4 ได้ยื่นฟ้องนายกิตติเชษฐ์ ไชยเดช หรือชื่อเดิม สรายุทธ ไชยเดช (พี่ชายพิงค์กี้ สาวิกา) กับพวกรวม 19 คน ในความผิดฐานโดยทุจริต โดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนฯ ,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกง


โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า จำเลยกับพวกรวม 19 คน มีเจตนาทุจริตหลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จผ่านระบบเว็บไซต์แชร์ Forex 3D และผ่านระบบเฟซบุ๊ก ชักชวนประชาชนนำเงินร่วมลงทุน โดยอ้างว่าจะนำเงินไปลงทุนซื้อขายเทรดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ประกอบกับจำเลยทั้ง 19 ได้อาศัยโอกาสจากการมีชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของจำเลยทั้ง 19 ที่เป็นดารานักเเสดง นักร้อง บุคคลในวงการบันเทิง บุคคลในวงการชั้นสูง หรือไฮโซ และรวมถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศ สร้างความน่าเชื่อถือให้กับจำเลยทั้ง 19 ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ และโดยการหลอกลวงดังกล่าวทำให้ประชาชนผู้เสียหายหลงเชื่อถูกหลอกลวง โดยได้ไปทรัพย์สินซึ่งเป็นเงินรวมผู้เสียหายจำนวน 9,824คน และมีการกู้ยืมเงินรวมกันมีความเสียหายรวม 2,489,820,321.52บาท

ทั้งนี้ศาลประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ อ.2047/25 และสอบคำให้การจำเลยทุกคนแล้ว ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี ศาลจึงนัดคู่ความตรวจพยานหลักฐานวันที่ 26 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.


ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าข้อหามีอัตตราโทษสูง ค่าเสียหายตามฟ้องมีจำนวนมาก กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2 น.ส.สาวิกา ไชยเดช และ สรินญา ไชยเดช จำเลยที่ 3 (มารดา) น่าจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ยกคำร้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้ยื่นฟ้องจำเลยบางส่วนไปเเล้ว โดยในวันนี้ได้ยื่นฟ้องเพิ่มอีก 9 ซึ่งรวม น.ส.สาวิกา ไชยเดช และ สรินญา ไชยเดช โดยที่ผ่านมาที่อัยการยื่นฟ้องศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกันจำเลยทุกคน โดยมีจำเลยคดีนี้ถูกคุมขังวันนี้ รวม 19 คน.-สำนักข่าวไทย

อ่านข่าว DSI ส่งมอบบัญชีทรัพย์สินที่ยึดอายัดคดีแชร์ Forex-3D ให้ ปปง. https://tna.mcot.net/crime-1000556


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”