อสมท 7 เม.ย.- “อภิสิทธิ์” เชื่อคสช.ผ่อนคลายคำสั่งหลังมีกฎหมายพรรคการเมือง ชี้ทุกฝ่ายต้องประคองสถานการณ์ให้เดินตามโรดแมป เผยเลือกตั้งรอบหน้า ชูนโยบายแก้เศรษฐกิจ-ความเป็นธรรม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงทิศทางการเมืองไทยหลังมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่า ในที่สุดประเทศก็ต้องเดินกลับเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตย มีความชัดเจนของตารางเวลามากขึ้น ทุกฝ่ายมีหน้าที่ช่วยกันทำให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย และเรียนรู้จากปัญหาในอดีตเพื่อให้กลับเข้าสู่ประชาธิปไตยได้อย่างยั่งยืน ส่วนที่ในรัฐธรรมนูญตัดเรื่ององค์กรแก้วิกฤติชาติ ในมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญ ปี 60 ออก ส่วนตัวมองว่าไม่ได้เป็นปัญหา เพราะการเขียนไว้กว้าง ๆ แบบนี้ก็มีความยืดหยุ่นของฝ่ายต่าง ๆ ที่เข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาได้
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังยืนยันไม่ยกเลิกคำสั่ง หรือประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมทางการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจได้ว่าการผ่อนคลายน่าจะเกิดขึ้นหลังมีกฎหมายลูกที่ว่าด้วยพรรคการเมืองออกมาบังคับใช้ ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นพรรคการเมืองจะต้องทำอะไรหลายอย่างก็ให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่จะออกมา
“เราก็ต้องช่วยกันประคับประคองสถานการณ์ให้เดินไปตามเวลาที่กำหนดไว้ เราต้องช่วยกันคิดว่าหลังจากการเลือกตั้งจะทำอย่างไรให้การเมืองเป็นประชาธิปไตย ตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยไม่ต้องเข้าไปอยู่ในวังวนของการทุจริต การใช้อำนาจในทางมิชอบ นำไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรงเหมือนที่ผ่านมา” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีมีบางพรรคประกาศว่าจะฉีกรัฐธรรมนูญ ปี 60 หากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นรัฐบาล หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่อยากให้เสียเวลาเรื่องรัฐธรรมนูญ เพราะมีเรื่องอื่นที่สำคัญยิ่งกว่า เรื่องใดที่เป็นข้อจำกัดในรัฐธรรมนูญที่ต้องได้รับการแก้ไขนั้น สำหรับตนในฐานะนักการเมืองจะต้องพิสูจน์ตนเองกับประชาชนก่อนว่าสามารถเป็นที่พึ่งและที่ศรัทธาของประชาชนได้ เพื่อให้ประชาชนสนับสนุน นำไปสู่การแก้ไขและเพิ่มอำนาจให้นักการเมืองสามารถทำในเรื่องต่างๆได้เพิ่มมากขึ้น สำหรับความพร้อมของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งนั้น พรรคจะเตรียมตัวเท่าที่จะทำได้ ภายใต้ข้อกฎหมายที่มีอยู่ โดยจะเน้นการแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับประชาชนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว ยังมีเรื่องความเป็นธรรม เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย