กรุงเทพฯ 6 เม.ย. – กพร.ย้ำคำสั่ง คสช.ระงับทำเหมืองแร่ทองคำทุกรายไม่เลือกปฏิบัติ ป้องกันและระงับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน พร้อมตั้งคณะทำงานเจรจาตามกระบวนการปรึกษาหารือ เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจน
ตามที่เป็นข่าวกรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด ผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ส่งหนังสือแจ้งรัฐบาลไทยละเมิดข้อตกลงการค้าเสรีไทย – ออสเตรเลีย (TAFTA) หลังมีคำสั่งปิด เหมืองทองอย่างไม่เป็นธรรมในช่วงสิ้นปี 2559 นั้น
นายสมบูรณ์ ยินดียั่งยืน อธิบดี กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า เนื่องจากมีการร้องเรียนและคัดค้านการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำว่าการประกอบกิจการก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน รวมถึงปัญหาความขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่โครงการทำเหมืองแร่ทองคำหลายแห่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 72/2559 เรื่องการแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำเป็นมาตรการตามความจำเป็นในการป้องกันและระงับผลกระทบ รวมถึงข้อขัดแย้งของประชาชนในพื้นที่ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อย ส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ โดยให้ผู้ประกอบการที่ได้รับประทานบัตรและใบอนุญาตต่าง ๆ ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำทุกรายระงับการประกอบกิจการจนกว่าคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติจะมีมติเป็นอย่างอื่น
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า กพร.ได้ดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวในการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ วิเคราะห์ข้อเท็จจริงและปัญหา พร้อมทั้งเสนอมาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหา การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และเสนอกรอบนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ทองคำต่อคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ เพื่อพิจารณาต่อไป
สำหรับการดำเนินการของบริษัท คิงส์เกตฯ ตามที่เป็นข่าวเป็นการดำเนินการตามกลไกภายใต้กรอบ TAFTA เพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางปฏิบัติตามสิทธิของบริษัทฯ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีความละเอียดอ่อนอย่างรอบด้าน เพื่อวางแนวทางแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมเคารพสิทธิ์ของบริษัทฯ และได้มีการเตรียมความพร้อมโดยจะมีการแต่งตั้งผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นคณะทำงานเจรจาตามกระบวนการปรึกษาหารือร่วมกับบริษัทฯ เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนต่อไป.-สำนักข่าวไทย