กรมทางหลวงแนะเส้นทางเลี่ยงรถติดช่วงสงกรานต์

กรุงเทพฯ 5 เม.ย. – กรมทางหลวงแนะเส้นทางหลีกเลี่ยงรถติด จัดเจ้าหน้าที่ เตรียมอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยช่วงสงกรานต์ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทางทั้งขาไปและขากลับ 


นายสราวุธ ทรงศิวิไล รองอธิบดีกรมทางหลวง ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์อำนวยความสะดวกและปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2560 เปิดเผยว่า สงกรานต์ปีนี้คาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการทางหลวงจำนวนมาก ทำให้การจราจรบนทางหลวงหนาแน่นหลายเส้นทาง กรมทางหลวงจึงบูรณาการร่วมกับตำรวจทางหลวงแนะนำเส้นทางเลือกสู่จังหวัดทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้  โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัยไปกับกรมทางหลวง” เพื่อเป็นข้อมูลการเดินทางช่วยหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดและลดระยะเวลาการเดินทาง

สำหรับกรุงเทพฯ – ภาคเหนือ  เส้นทางที่ 1  (กรุงเทพฯ – นครสวรรค์)  จากกรุงเทพฯ ไปถนนรังสิต (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.อยุธยา – จ.อ่างทอง – จ.สิงห์บุรี (ใช้ทางหลวงหมายเลข 32 ถนนสายเอเชีย) –  อ.มโนรมย์ (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้า   สู่จังหวัดนครสวรรค์ /


เส้นทางที่ 2 (กรุงเทพฯ – นครสวรรค์) จากกรุงเทพฯไป จ.นนทบุรี (ใช้ทางหลวงหมายเลข 340) – จ.สุพรรณบุรี (ใช้ทางหลวงหมายเลข 340) –    จ.ชัยนาท (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์ /  เส้นทางที่ 3 (กรุงเทพฯ – นครสวรรค์) จากกรุงเทพฯไป จ.นครปฐม (ใช้ทางหลวงหมายเลข 346) – จ.สุพรรณบุรี (ใช้ทางหลวงหมายเลข 321) – จ.อุทัยธานี (ทางหลวงหมายเลข 333) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครสวรรค์ / เส้นทางที่ 4 (กรุงเทพฯ – พิษณุโลก) จากกรุงเทพฯไปรังสิต – อ.วังน้อย – จ.สระบุรี – จ.ลพบุรี (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – อ.ตากฟ้า (ใช้ทางหลวงหมายเลข 11) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดพิษณุโลก

กรุงเทพฯ – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  เส้นทางที่ 1 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) จากกรุงเทพฯไป อ.วังน้อย (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – จ.สระบุรี –  อ.ปากช่อง – อ.สีคิ้ว   (ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา / เส้นทางที่ 2 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา) จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ใช้ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ใช้ทางหลวงหมายเลข 2256) – อ.ด่านขุนทด (ใช้ทางหลวงหมายเลข 2148) – อ.ขามทะเลสอ (ใช้ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา / เส้นทางที่ 3 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา)  จากกรุงเทพฯไป จ.สระบุรี (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – อ.ม่วงค่อม (ใช้ทางหลวงหมายเลข 205) – อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256) – บ.บัวชุม,บ.หนองสอง (ใช้ทางหลวงหมายเลข 2234,2247) – อ.ปากช่อง (ใช้ทางหลวงหมายเลข 2422) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา / เส้นทางที่ 4 (กรุงเทพฯ – นครราชสีมา)  จากกรุงเทพฯไป จ.นครนายก (ใช้ทางหลวงหมายเลข 305) – อ.บ้านนา (ใช้ทางหลวงหมายเลข 3051, 33) –  อ.แก่งคอย (ใช้ทางหลวงหมายเลข 3222) – อ.ปากช่อง (ใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้า  สู่จังหวัดนครราชสีมา

กรุงเทพฯ – ภาคตะวันออก เส้นทางที่ 1 (กรุงเทพฯ – ระยอง จันทบุรี ตราด) จากกรุงเทพฯไปมอเตอร์เวย์ – เมืองพัทยา (ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7) – กระทิงลาย – บ้านโป่ง (ใช้ทางหลวงหมายเลข 36) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด / เส้นทางที่ 2 (กรุงเทพฯ – ระยอง จันทบุรี ตราด) จากกรุงเทพฯไปมอเตอร์เวย์ (ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7) – อ.บ้านบึง – บ้านโป่ง (ใช้ทางหลวงหมายเลข 344) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด  /  เส้นทางที่ 3 (กรุงเทพฯ – พัทยา ระยอง จันทบุรี ตราด) จากกรุงเทพฯไปมอเตอร์เวย์ – จ.ชลบุรี (ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 หรือ ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท) – แยกกระทิงลาย – เมืองพัทยา (ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด / เส้นทางที่ 4 (กรุงเทพฯ – พัทยา) จากกรุงเทพฯไปถนนบางนาตราด ทางหลวงหมายเลข 34 มุ่งหน้าสู่จังหวัดชลบุรี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าสู่เมืองพัทยา / เส้นทางที่ 5 (กรุงเทพฯ – พัทยา) จากกรุงเทพฯไปเมืองพัทยา (ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท)


กรุงเทพฯ – ภาคกลาง เส้นทางที่ 1 (กรุงเทพฯ – อ่างทอง) จากกรุงเทพฯไปรังสิต – ต่างระดับคลองหลวง (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – เชียงรากน้อย   (ใช้ทางหลวงหมายเลข 3214) – ใช้ทางหลวงหมายเลข 347 มุ่งหน้าสู่จังหวัดอ่างทอง / เส้นทางที่ 2 (กรุงเทพฯ – อ่างทอง) จากกรุงเทพฯไปรังสิต – ต่างระดับคลองหลวง  (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) – ต่างระดับบางปะอิน – จ.อยุธยา (ใช้ทางหลวงหมายเลข 32) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดอ่างทอง / เส้นทางที่ 3 (กรุงเทพฯ – อ่างทอง) จากกรุงเทพฯไปวงแหวนตะวันออก (ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9) – ต่างระดับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) – วังน้อย (ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน) –  ถนนโรจนะ (ใช้ทางหลวงหมายเลข 309) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดอ่างทอง

กรุงเทพฯ – ภาคใต้ เส้นทางที่ 1 (กรุงเทพฯ – ประจวบคีรีขันธ์) จากกรุงเทพฯไป จ.สมุทรสาคร – จ.สมุทรสงคราม (ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ถนนพระราม2 ) – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ / เส้นทางที่ 2 (กรุงเทพฯ – ประจวบคีรีขันธ์) จากกรุงเทพฯไป อ.สามพราน – อ.นครชัยศรี – จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี      (ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ / เส้นทางที่ 3 (กรุงเทพฯ – ประจวบคีรีขันธ์) จากกรุงเทพฯไปถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338 ปิ่นเกล้า – นครชัยศรี) – อ.นครชัยศรี – จ.นครปฐม – จ.ราชบุรี – แยกวังมะนาว – จ.เพชรบุรี (ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

รองอธิบดีกรมทางหลวง กล่าวต่อไปว่า กรมทางหลวงติดตั้งป้ายเส้นทางเลี่ยง เส้นทางแนะนำ ทุกเส้นทางเป็นระยะ ๆ รวมถึงการปรับปรุงเส้นทาง ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนทางหลวง และจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ตลอดจนเตรียมพร้อมด้านอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางทั้งขาไปและขากลับ นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Thailand Highway Traffic (ทางหลวงแผ่นดิน) M Traffic (มอเตอร์เวย์) ทั้งระบบ IOS และ Android เพื่อตรวจสอบสภาพการจราจร Online แบบ Real Time โดยสามารถดาวน์โหลดได้ที่ App Store และ Google Play Store ทั้งนี้ ขอให้ผู้เดินทางศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง เตรียมความพร้อมทั้งคนและตรวจสอบสภาพรถ ปฏิบัติตามกฎจราจร ป้ายเตือน ป้ายแนะนำต่างๆของกรมทางหลวง หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเส้นทางเพิ่มหรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ศูนย์บริการข้อมูลทางหลวงพิเศษ 1586 กด 7 และตำรวจทางหลวง 1193 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย