ป.ป.ช. 4 เม.ย. – ภตช. จี้ ป.ป.ช. สอบ สพฐ.จัดซื้อ CCTV จังหวัดชายแดนใต้ พบส่อฮั้วประมูล ขอให้เอาผิด ม.157 กับจนท.ที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ เอาผิด บ.เอกชน ตาม พ.ร.บ.ฮั้วประมูล และอายัดทรัพย์สินทั้งของ จนท.และ บ.เอกชน ไว้ก่อน ป้องกันหนีออกนอกประเทศ
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เลขาธิการภาคีเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันแห่งชาติ (ภตช.) ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผ่านนายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักการข่าวและกิจการพิเศษสำนักงาน ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบ และเร่งตั้งอนุกรรมการไต่สวน การติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด โครงการ Safe Zone School ใน 12 เขตพื้นที่การศึกษา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงิน 405 ล้านบาท
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่ามีบริษัทเข้าร่วมประมูลโครงการทั้ง 12 เขตพื้นที่การศึกษา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวม 4 บริษัท และส่อเค้าฮั้วประมูลให้ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวทั้ง 4 บริษัท โดยเฉลี่ยกันไปทั้ง 12 เขต โดยทั้ง 4 บริษัทได้ว่าจ้างบริษัทเดียวกันในการติดตั้งกล้องวงจรปิด นอกจากนี้ ยังพบว่า 12 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ไม่มีห้องควบคุมและระบบสัญญาณเตือนภัย รวมทั้ง ระบบจดจำใบหน้าคนร้าย ก็ไม่สามารถแจ้งเตือนผ่านโทรศัพท์ได้
นายมงคลกิตติ์ จึงขอเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งอนุไต่สวนในส่วนของการจัดซื้อจัดจ้าง และตั้งอนุไต่สวนการตรวจรับ เพื่อเอาผิดกับข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ระดับซี 8 –ซี 11 และเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ทหารที่เกี่ยวข้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นหัวหน้าส่วนราชการ แต่ไม่ติดตาม หรือไม่ปกป้องงบประมาณไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ขอให้เอาผิดบริษัทเอกชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 และขอให้ตั้งอนุไต่สวนกรณีตรวจรับงานของคณะกรรมการตรวจรับงาน ผอ.เขตที่มีส่วนเยวข้องในการรับงานต่างๆ เพราะเท่ากับว่าเป็นการร่วมกันฉ้อโกงรัฐ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย โครงการดังกล่าวต้องการสร้างความปลอดภัยให้กับครูและนักเรียน แต่ทุกวันยังต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจงานเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ประจำอยู่ตามโรงเรียนต่างๆ เพราะกล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้งานได้
“อยากให้ ป.ป.ช. อายัดทรัพย์สินของทั้ง 4 บริษัท และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีการถ่ายโอนเงินออกนอกประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ควรโยกย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ไปก่อน เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบ” นายมงคลกิตติ์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย