ครม.เห็นชอบลดภาษีรถยนต์ไฟฟ้า

ทำเนียบรัฐบาล 28 มี.ค. – ครม.เห็นชอบลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้า หวังส่งเสริมการใช้รถไฟฟ้าในประเทศเพิ่มขึ้น 20,000-30,000 คัน ในช่วง 5 ปีข้างหน้า 


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยและเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตอัตราพิเศษ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอิน (PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) โดยลดอัตราภาษีลงกึ่งหนึ่งจากอัตราปกติ 

ทั้งนี้  ปัจจุบันกรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ปริมาณ 100 กรัม จัดเก็บภาษีร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 5 , หากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ปริมาณ 100-150 กรัม จัดเก็บภาษีร้อยละ 20 เหลือร้อยละ 10  สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (BEV) ลดจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ  2 โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องผ่านการอนุมัติโครงการจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และปีที่ 5 เป็นต้นไปต้องใช้แบตเตอรี่ผลิตในประเทศ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมต่อเนื่องของยานยนต์ 


นอกจากนี้ ครม.ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินมาตรการเพื่อสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยสำนักงบประมาณส่งเสริมให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าประมาณร้อยละ 20 ของรถยนต์ใหม่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.จัดซื้อมาให้บริการรถลีมูซีนในสนามบิน  รวมทั้งส่วนราชการอื่น เช่น  โดยเฉพาะโครงการพัฒนาระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และเขตอุตทานประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าภาครัฐมีการสนับสนุนนโยบายรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า  การส่งเสริมให้เจ้าของรถสามารถนำปลั๊กไฟฟ้าชาร์ตแบตเตอรี่ในบ้านช่วงกลางคืนได้ เพราะมีค่าไฟฟ้าต่ำกว่ากลางวัน 

ครม.ยังมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานการใช้รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อการผลิตและใช้แบตเตอรี่ในประเทศ 5 ปีข้างหน้า ทั้งการตั้งสถานีเติมแบตเตอรี่ ปัจจุบันมีเงินอุดหนุนให้ส่วนราชการตั้งสถานีโดยชดเชยเงินร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนเอกชนอุดหนุนร้อยละ 75 เพื่อกระจายการตั้งสถานีในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ สูงขึ้น  ในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น ได้ดำเนินโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ  เพื่อเป็นพื้นฐานในการต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยไปสู่อุตสาหกรรมสร้างมูลค่าด้วยนวัตกรรม ส่งเสริมให้ไทยเป็นประเทศเป้าหมายของการลงทุนในการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต โดยศูนย์ทดสอบแห่งนี้จะเปิดดำเนินการในเฟสแรกภายในเดือนมีนาคม 2561  คาดว่าในช่วง 5 ปี ข้างหน้าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าใช้ในประเทศประมาณ 20,000-30,000 คัน เกิดการลงทุนของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นประมาณ 20,000 ล้านบาท และหากค่ายรถยนต์ผลิตรถไฟฟ้าและมีผู้ใช้มากขึ้นจะทำให้ราคาปรับลดลงได้ในอนาคต.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ญาติเศร้ารับร่าง ตร.เสียชีวิตจากเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ

ตั้งแถวรับร่างอย่างสมเกียรติ 2 ตำรวจเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ลำปาง และราชบุรี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว ด้านพ่อของ “ร.ต.อ.จตุรงค์” เผยลางบอกเหตุก่อนเครื่องบินตก ลูกมาขอนอนค้างที่บ้าน รู้ข่าวแทบช็อก

“กล้าธรรม” ขอบคุณคะแนนเสียงชาวนครฯ ลั่นพร้อมพัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้

หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของชาวนครฯ เขต 8 ที่ให้โอกาสพรรคกล้าธรรม เข้ามารับใช้ ลั่นพร้อมช่วย “บิ๊กโอ” พัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน

“บิ๊กโอ” กล้าธรรม นำโด่งเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8

“บิ๊กโอ” ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม นำโด่งทิ้งห่าง “ไสว” จากภูมิใจไทย แล้วกว่าหมื่นคะแนน ในการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8

ตำรวจได้เบาะแสสำคัญโจรชิงทอง กลางห้างฯ อุดรธานี

วงจรปิดเผยคนร้ายใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที ก่อเหตุชิงทองมูลค่ากว่าล้านบาท กลางห้างฯ จ.อุดรธานี ล่าสุดตำรวจได้เบาะแสสำคัญ ทั้งเส้นทางหลบหนี รวมถึงพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้ว