นนทบุรี 27 มี.ค. – กระทรวงพาณิชย์มั่นใจสามารถผลักดันการส่งออกปีนี้ขยายตัวร้อยละ 5 ตามเป้าหมาย แม้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าและผันผวนจากนโยบายของสหรัฐขาดความชัดเจน
นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 5 จากปีที่ผ่านมาส่งออกได้ 2,718 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากสินค้าไทยมีคุณภาพในสายตาของผู้ซื้อในตลาดโลก เพราะมีจุดเด่นเรื่องการออกแบบและมีนวัตกรรม ประกอบกับ เศรษฐกิจคู่ค้าทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรป (อีย) รวมถึงจีนเริ่มจะดีขึ้น ทำให้การส่งออกสินค้ากลุ่มดังกล่าวดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังเตรียมที่จะจัดงานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน หรือ BIG&BIH 2017 ระหว่างวันที่ 19 – 23 เมษายน ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ซึ่งปีนี้ได้รับความสนใจจากต่างชาติมาร่วมงานแสดงสินค้าถึง 100 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา มีเพียง 25 ราย และปีนี้จะมีการนำสินค้าโอทอปที่เป็นไลฟ์สไตล์และได้รับรางวัล TOP of OTOP มาจัดแสดงเป็นครั้งแรก เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการค้าสินค้าโอทอป มากขึ้น โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อและผู้ค้าที่กำลังมองหาพันธมิตร มีโอกาสเจรจาและจับคู่ทางธุรกิจ ซึ่งจะส่งเสริมให้ไทยสามารถเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกสินค้าของขวัญของตกแต่งบ้านและของใช้ในบ้านในอาเซียน และคาดว่าจะมีเงินสะพัดภายในงานกว่า 800 ล้านบาท
ส่วนภาพรวมการส่งออกของไทยปีนี้จะขยายตัวได้ตามเป้าหมายร้อยละ 5 แม้ว่าขณะนี้อัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนจากนโยบายของทางสหรัฐที่ยังไม่มีความชัดเจน และเป็นรูปธรรมออกมา แต่ผู้ส่งออกต่างทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้อยู่แล้วและกรมฯ ก็มีแผนเชิงรุกในการผลักดันการส่งออก ซึ่งจะทำให้การส่งออกสามารถขยายตัวได้ตามที่ตั้งเป้าไว้
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ เลขาธิการสมาพันธ์ ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ไทย กล่าวว่า ค่าเงินที่แข็งค่าและมีความผันผวนถือเป็นความเสี่ยงต่อภาพรวมการส่งออกสินค้าปีนี้ แต่สินค้าไทยมีศักยภาพและคุณภาพการดีไซน์เป็นที่ต้องการของตลาดโลกจะทำให้สินค้าในกลุ่มนี้ยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่นโยบายของสหรัฐเชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อสินค้าในกลุ่มไลฟ์สไตล์เช่นกัน แต่น่าจะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ดีขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มอาเซียนที่การส่งออกยังไปได้ดี ส่วนคู่แข่งหลักอย่างจีนปีนี้ได้รับผลกระทบจากต้นทุนสูงขึ้น เพราะนโยบายของสหรัฐที่มีการกีดกันการค้า รวมถึงค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงมาก ขณะเดียวกันผู้ซื้อขาดความเชื่อมั่นต่อคุณภาพสินค้าจีน จึงถือเป็นโอกาสสำหรับสินค้าไทยในการทำการค้าปีนี้ .-สำนักข่าวไทย