กทม. 26 มี.ค. – เมื่อวันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษาประกาศยกเว้นภาษีให้นายจ้างที่รับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทำงาน เท่ากับค่าจ้างที่ใช้จ่ายผู้สูงอายุ ทำให้เกิดความตื่นตัวให้หลายบริษัทรับคนวัยเกษียณเข้าทำงาน ล่าสุดมีร้านหนังสือแห่งหนึ่งเปิดรับสมัครพนักงานขายหนังสือ อายุตั้งแต่ 50 ขึ้นไปเข้าทำงาน
หลังบริษัทซีเอ็ดบุ๊ค ประกาศรับสมัครพนักงานร้านหนังสืออายุ 50 ปีขึ้นไปเข้าทำงานทางเฟซบุ๊ก กิตติยา อดีตพนักงานประจำที่ต้องออกจากงานในวัยใกล้เกษียณ เหตุบริษัทขาดสภาพคล่องก็รีบนำเอกสารที่เคยใช้ตระเวนสมัครงานมาแล้วหลายที่แต่ไม่มีใครรับ มายืนสมัครที่นี่ทันที
เช่นเดียวกับ อัญชสา ที่ผ่านวัยเกษียนมาแล้ว 2 ปี และออกจากงานประจำ หันมาทำอาชีพค้าขายนานกว่า 20 ปี ก็มาสมัครด้วย เพราะมองว่าเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้เธอมีรายได้โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินเก็บหมด เพราะการลงทุนขาดทุนอย่างเช่นที่ผ่านมา
โครงการอายุ 60 ปี มีไฟในการทำงานของร้านนี้ ถือเป็นการสนองนโยบายรัฐในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุที่เห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุด โดยผู้สมัครต้องมีอายุ 50 ปีขึ้นไป จบการศึกษาไม่ต่ำกว่า ม.3 มีใจรักงานบริการ เลือกวันทำงานได้ รายได้วันละ 300 บาท ไม่รวมค่าล่วงเวลาและสวัสดิการ มีประสบการณ์ ถ่ายทอดความรู้ได้ ตั้งใจทำงาน ซื่อสัตย์ เห็นคุณค่าของหนังสือที่มีในผู้สูงอายุมากกว่าคนรุ่นใหม่ คือเหตุผลหลักที่ทำให้รับเข้าทำงาน นอกจากแรงจูงใจเรื่องภาษีที่กำหนดไว้ สามารถหักภาษีได้เท่ากับค่าจ้างที่ใช้จ่าย พนักงานผู้สูงวัย แต่จำนวนที่จ้างต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของพนักงานทั้งหมด
คุณค่าและประสิทธิภาพในทำงานไม่ได้ชี้วัดที่อายุ แต่ประสบการณ์และความซื่อสัตย์ อดทน กลับเป็นจุดเด่นที่ผู้สูงอายุมีและครองใจนายจ้าง ดังนั้น ความเชื่อที่ว่าคนวัยเกษียณทำงานไม่ได้ ในยุคที่เครื่องจักรทำงานแทนคนจึงไม่เป็นจริงเสมอไป. – สำนักข่าวไทย