ย้อนปมจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจไทเกอร์



กรุงเทพฯ 21 มี.ค.-หลังเมื่อวานนี้มีการเปิดเผยว่า ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือไปยัง สตช. เพื่อให้ลงโทษตำรวจ 4 นาย ที่เกี่ยวข้องกับกรณีการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจยี่ห้อ “ไทเกอร์” ในวันนี้เราจะมาย้อนดูข้อมูลในประเด็นดังกล่าวกัน


โดยคดีทุจริตจัดซื้อรถจักรยานยนต์ไทเกอร์ เป็นการจัดซื้อรถจักรยานยนต์สายตรวจขนาด 200 ซีซี พร้อมอุปกรณ์ทดแทนจำนวน 19,147 คัน ในวงเงินกว่า 1,144 ล้านบาท เพื่อส่งให้สถานีตำรวจทั่วประเทศ โดยเซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2550 ราคากลางตามงบจัดซื้อคันละ 65,000 บาท แต่รถจักรยานยนต์จำนวนมากยังถูกจอดทิ้งไว้ตามหน่วยงานของตำรวจทั่วประเทศ เพราะใช้การไม่ได้ ส่วนรถที่เสียก็ไม่มีศูนย์ซ่อม จึงถูกตรวจสอบ


หลังจากนั้นวันที่ 1 เมษายน 2557 คณะกรรมการ ป.ป.ช.แถลงชี้มูลความผิดผู้ที่เกี่ยวข้องว่า โครงการดังกล่าวมีการกำหนดร่างขอบเขตงานในเรื่องของโรงงานผู้ผลิตต้องได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และต้องมีตัวแทนจำหน่ายให้บริการซ่อมครบทุกจังหวัด ทำให้มีผู้ยื่นซองเสนอราคาเพียง 3 ราย แต่จากงบประมาณที่ได้รับ มีเพียงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อไทเกอร์ รุ่น Boxer 200 ของบริษัท คาร์แทรคกิ้ง จำกัด ที่สามารถเสนอราคาได้อย่างถูกต้องเพียงรายเดียว และไม่มีการยกเลิกการประกวดราคา โดยไม่ให้เหตุผลความจำเป็นที่ต้องจัดซื้อ อย่างไรก็ตาม ขณะนั้นยังไม่ได้ตรวจสอบเงื่อนไขเรื่องการให้บริการซ่อม ที่ไม่มีศูนย์ซ่อมและตัวแทนจำหน่าย ทำให้ไม่สามารถนำรถไปซ่อมบำรุงตามสัญญาได้ หลังพบรถมีปัญหาหลายอย่าง เช่น ไม่สามารถทำความเร็วได้เท่ากับรถยี่ห้ออื่นๆ

ป.ป.ช.ส่งหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวหารองจเรตำรวจท่านหนึ่งกับพวกรวม 13 นาย ซึ่งมีทั้งยังรับราชการและเกษียณราชการไปแล้ว ซึ่งจะดำเนินการแตกต่างกัน โดยในกลุ่มที่ยังรับรับราชการจะพิจารณาโทษ 7 สถาน ประกอบด้วย ภาคทัณฑ์, ทัณฑกรรม, กักยาม, กักขัง, ตัดเงินเดือน, ปลดออก และไล่ออก โดยเสนอให้ ผบ.ตร.พิจารณาสั่งการ


สำหรับรายงานการไต่สวนคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 9 เสียง สรุปว่าการกระทำของนายตำรวจระดับนายพล 3 นาย มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการฯ และฐานประมาทเลินเล่อในหน้าที่อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ขณะที่การกระทำของนายพลตำรวจอีกนายมีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้ตนหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ ส่วนอีก 9 ราย มีความผิดแตกต่างกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

มนุษย์ ภัยคุกคามพะยูน ?

ช่วงนี้พบพะยูนในทะเลฝั่งอันดามันตายเพิ่มขึ้นแบบถี่ยิบ จนน่าเป็นห่วงว่าพะยูนอาจสูญพันธุ์ไปในอนาคต โดยเฉพาะล่าสุดเมื่อมีการพบพะยูนตายในทะเลภูเก็ต อยู่ในสภาพถูกตัดหัว คาดนักล่าหวังเอาเขี้ยว

typhoon Man-Yi barrels through the Philippines

ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” เข้าฟิลิปปินส์

มะนิลา 17 พ.ย.- ซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ พัดเข้าเกาะลูซอนที่เป็นเกาะหลักและมีประชากรอยู่หนาแน่นที่สุดของฟิลิปปินส์แล้วในวันนี้ เสี่ยงทำให้เกิดฝนตกหนักในกรุงมะนิลาที่เป็นเมืองหลวง หม่านหยี่ เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เป็นชื่อของอ่างเก็บน้ำในฮ่องกง นับเป็นพายุลูกที่ 6 ที่พัดเข้าฟิลิปปินส์ในรอบ 1 เดือน มีความเร็วลม 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อ่อนกำลังลงเล็กน้อยหลังจากขึ้นฝั่งเมืองปางานีบัน จังหวัดคาตันดัวเนส ที่เป็นเกาะขนาดเล็ก เมื่อคืนวันเสาร์ ข้ามมาจนถึงจังหวัดคามารีเนส นอร์เต บนเกาะลูซอน ในเช้าวันนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้มีแนวโน้มจะทำให้เกิดฝนตกหนักทั่วเขตมหานครมะนิลา ซึ่งมีการอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงแล้วกว่า 1 ล้านคน แต่ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ากระแสลมแรงได้สร้างความเสียหายให้แก่สิ่งปลูกสร้างในจังหวัดคาตันดัวเนสก็ตาม.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ดอยอินทนนท์คึกคักรับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้า

นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยอินทนนท์รับลมหนาว สัมผัสหมอกหนายามเช้าวันหยุด หลายคนบอกไม่ผิดหวัง เพราะพระอาทิตย์สาดแสงเป็นประกายประทับใจ