กรุงเทพฯ 11 พ.ย. – รฟท.เปิดเดินรถโดยสารรุ่นใหม่เที่ยวแรกขบวนรถด่วนพิเศษ 2 เส้นทาง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ-อุบลฯ พร้อมเปิดเพิ่มอีก 2 เส้นทาง กรุงเทพฯ-หนองคายและกรุงเทพฯ-หาดใหญ่ 2 ธ.ค.นี้ คาดมีผู้ใช้บริการมากกว่าปีละ 1 ล้านคน สร้างรายได้ปีละ 1,250 ล้านบาท
นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นประธานปล่อยขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่เพื่อให้บริการแก่ประชาชนเป็นเที่ยวแรก 2 เส้นทาง ขบวนรถด่วนพิเศษอุตราวิถี (กรุงเทพฯ – เชียงใหม่) และขบวนรถด่วนพิเศษอีสานวัตนา (กรุงเทพฯ – อุบลราชธานี) นายวุฒิชาติ เปิดเผยว่า การเปิดบริการรถโดยสารรุ่นใหม่ครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ได้ดำเนินการยกระดับคุณภาพการให้บริการทางรถไฟที่ดีแก่ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคมที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำกระจายความเจริญสู่สังคม ตลอดจนสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่พี่น้องประชาชนคนไทย
ทั้งนี้ หลังจากเปิดให้บริการเดินรถโดยสารรุ่นใหม่ 2 เส้นทางแรกแล้ว ต่อไปจะมีการเปิดเดินรถเพิ่มอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางอีสานมรรคา กรุงเทพฯ-หนองคาย-กรุงเทพฯ และเส้นทางทักษิณารัถย์ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่-กรุงเทพฯ วันที่ 2 ธันวาคม 2559 เป็นต้นไป ซึ่งครบตามแผนการเปิดเดินรถ 4 เส้นทางศักยภาพที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการพระราชทานชื่อขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่และพระราชทานอนุญาตให้เชิญชื่อพระราชทานนำไปประดับที่ตู้โดยสารรถไฟใหม่ทั้ง 115 คันอีกด้วย โดยเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ พระราชทานชื่อว่า “อุตราวิถี” เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ พระราชทานชื่อว่า “อีสานวัตนา” เส้นทาง กรุงเทพฯ – หนองคาย – กรุงเทพฯ พระราชทานชื่อว่า “อีสานมรรคา” และเส้นทางกรุงเทพฯ – หาดใหญ่ – กรุงเทพฯพระราชทานชื่อว่า“ทักษิณารัถย์”
นายวุฒิชาติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า มั่นใจการเปิดให้บริการรถโดยสารรุ่นใหม่จะตอบโจทย์การให้บริการที่ดีแก่ผู้โดยสาร เนื่องจากภายในห้องโดยสารประกอบด้วยบริการที่สะดวกสบาย สะอาด ปลอดภัย และทันสมัยซึ่งใน 1 ขบวน ประกอบด้วย รถพ่วงเป็นรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 (บนอ.ป.) รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 (บนท.ป.) ในจำนวนนี้มีรถสำหรับผู้พิการ 1 คัน รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (บกข.ป.) และรถกำลังไฟฟ้า (Power Car) อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ ห้องน้ำระบบสุญญากาศ ระบบกันสะเทือนแบบรถไฟความเร็วสูง ระบบทีวีแจ้งเตือน ปลั๊กไฟบริการทุกที่นอน จอทีวีส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารชั้น 1 กล้องวงจรปิดควบคุมความปลอดภัย รถสำหรับคนพิการ เป็นต้น
“การให้บริการรถโดยสารใหม่เมื่อผนวกกับแผนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ หากดำเนินการเสร็จจะทำให้ขบวนรถใหม่ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงที่หมายปลายทางเร็วขึ้น 3 ชั่วโมง และคาดว่าจะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยปีละ 1.073 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้เฉลี่ยประมาณปีละ 1,250 ล้านบาท” นายวุฒิชาติ กล่าว
สำหรับอัตราค่าโดยสารรถโดยสารรุ่นใหม่ เส้นทางกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ – กรุงเทพฯ ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 2 อัตราค่าโดยสารราคา 791-881 บาท และประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 1 อัตราค่าโดยสารราคา 1,253-1,453 บาท, เส้นทางกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 2 อัตราค่าโดยสารราคา 731-821 บาท ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 1 อัตราค่าโดยสารราคา 1,120-1,320 บาท, เส้นทางกรุงเทพฯ – หนองคาย – กรุงเทพฯ ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 2 อัตราค่าโดยสารราคา 748-838 บาท ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 1 อัตราค่าโดยสารราคา 1,157-1,357 บาท , เส้นทางกรุงเทพฯ – หาดใหญ่ – กรุงเทพฯ ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 2 อัตราค่าโดยสารราคา 855-945 บาท ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 1 อัตราค่าโดยสารราคา 1,394-1,594 บาท โดยผู้โดยสารที่จองตั๋วโดยสารล่วงหน้าและมีกำหนดเดินทางหลังจากมีการปรับใช้ขบวนรถใหม่ รฟท.อนุญาตให้ผู้โดยสารใช้บริการรถโดยสารรุ่นใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่ม.-สำนักข่าวไทย