“สว.วุฒิชาติ” ชงญัตติด่วนไฟไหม้รถทัศนศึกษา

รัฐสภา 7 ต.ค. – “สว.วุฒิชาติ” ชงญัตติด่วนไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เน้นติดตามตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย หากพบตรวจทิพย์ควรดำเนินคดี แนะกรมขนส่งทางบกขึ้นบัญชีรถที่ให้บริการสำหรับผู้สูงอายุ-นักเรียน


นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการเสนอญัตติ แนวทางการป้องกัน แก้ไข ช่วยเหลือเยียวยา ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ว่า ประเด็นหลักคงไม่ต่างกัน กับทางสภาผู้แทนราษฎรที่มีการตั้งญัตติด่วนมาก่อนหน้านี้ในเรื่องความห่วงใยต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งในวันนี้เป็นการฝากข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล ว่าจะหามาตรการอย่างไรสำหรับการสูญเสีย ทั้งการกำหนดความเหมาะสมของเด็กนักเรียนที่ไปดูงานอายุการช่วยเหลือตัวเอง รวมถึงหลายแนวทาง

ส่วนแนวทางในการแก้ปัญหาจริงจังในเรื่องนี้นั้น นายวุฒิชาติ เชื่อว่ามาตรฐานความปลอดภัย แต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบ ค่อนข้างเข้มงวดอยู่แล้วแต่ขาดการติดตาม เช่นตรวจสภาพไปแล้วอาจจะมีการตรวจติดตามทุก 2 เดือน 3 เดือน ไม่ใช่ต้องรอเมื่อครบวาระแล้วเข้ามาตรวจอีกที และอาจจะมีการอบรมผู้ให้บริการ ที่ควรให้ความรู้กับผู้โดยสารเช่นเดียวกับกรณีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่มีการให้คำแนะนำก่อนบิน


นายวุฒิชาติ กล่าวถึงการหลบเลี่ยงการตรวจสอบที่รถไปถอดถังแก๊สออกที่จังหวัดนครราชสีมา ว่าเรื่องนี้เป็นประเด็น เช่นมาตรฐานความปลอดภัยให้ติดตั้ง 3-4 ถังแต่มีการติดตั้งเพิ่มก็ขาดเรื่องความปลอดภัย และมาตรการตรวจติดตามเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งกรมการขนส่งทางบก มีการตรวจพิเศษอยู่แล้วก็ต้องดูการตรวจที่ต้นทางหรือตรวจปลายทาง แต่สิ่งที่ตนสบายใจคือกรมการขนส่งทางบกได้นัดรถเข้าไปตรวจแต่มีการนำรถไปถอดถังแก๊สที่จังหวัดนครราชสีมา ก็มี GPS ที่ติดตามสถานการณ์ได้ทันท่วงที

ส่วนการเข้าไปตรวจสภาพของรถที่ได้มีการถอดถังแก๊สออกก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่เห็น จะเป็นการตรวจสอบยากขึ้นหรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า ถ้ามองในแง่ดีก็เป็นเช่นนั้นแต่ถ้ามองอีกแง่คือเป็นการสมรรู้ร่วมคิด เช่นตอนตรวจมีเท่านี้แต่พอตรวจผ่านไปใส่เพิ่ม

สำหรับเรื่องนี้ถือเป็นมาตรการที่หละหลวมของเจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบกหรือไม่นั้น นายวุฒิชาติ กล่าวว่า เราคงต้องมาเน้นย้ำถึงมาตรการ ว่าต้องดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องของการตรวจทิพย์ ถ้ามีการตรวจทิพย์จริงก็ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุดในด้านของกฎหมาย โดยในช่วงบ่ายวันนี้ (7ต.ค.) คณะกรรมาธิการการคมนาคมวุฒิสภา ได้ตั้งประเด็นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เชิญมาชี้แจง ในเรื่องการขอความร่วมมือ และช่วยกำชับในเรื่องของความปลอดภัย


“ถ้าวันนี้เป็นลูกหลานคุณคนที่รับผิดชอบคุณจะคิดยังไง ถ้าเป็นการสูญเสียของลูกหลานคุณเราต้องช่วยกันสร้างจิตสำนึกในเรื่องพวกนี้”นายวุฒิชาติกล่าว

นายวุฒิชาติ ยังแสดงความเห็นกรณีที่มีการเสนอให้ยกเลิกการทัศนศึกษา ว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งในข้อเท็จจริงต้องดูปัญหาที่ต้นเหตุ หากมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี เชื่อว่าในประเด็นนี้จะไม่เกิดขึ้น ในเรื่องนี้อาจจะเป็นความตื่นตระหนกและต้องสร้างความมั่นใจ ล่าสุดกรมการขนส่งก็ต้องเรียกรถเข้าไปตรวจทั้งหมด อย่างไรก็ตามคาดว่าการอภิปรายญัตติด่วนวันนี้จะมีผู้ลงชื่ออภิปรายจำนวนมากเนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และในช่วงก่อนเปิดประชุมจะมีกิจกรรมยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

นายวุฒิชาติ ยังกล่าวว่าในฐานะประธานคณะกรรมาธิการคมนาคมย้ำว่าหลายประเด็นข้อสงสัยในวันนี้(7ต.ค.)จะซักถามที่กรมการขนส่งทางบก โดยเฉพาะการตรวจมาตรฐานการตรวจรถ และในฐานะที่ได้ร่วมงานกรมการขนส่งมานาน และหยิบยกว่า บขส. จะไม่มีปัญหาในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย ยกเว้นกรณีบางคนที่ซิกแซ็กดัดแปลงภายหลังทำให้ขาดมาตรฐานความปลอดภัย ขณะเดียวกันการปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่รัฐกำหนดถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ประกอบการซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเป็นจิตสำนึก ถามกลับไปถ้าเกิดเกิดวันหนึ่งเป็นลูกหลานคุณที่นั่งอยู่บนรถ เป็นญาติพี่น้องจะรู้สึกอย่างไร และย้ำว่าในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้บริการรถสาธารณะจะต้องให้ความรู้ก่อนการเดินทาง อย่างเช่นการเดินทางโดยเครื่องบินที่จะมีเจ้าหน้าที่มาอธิบายถึงการใช้เครื่องมืออุปกรณ์หากเกิดกรณีฉุกเฉิน ส่วนตัวต้องการให้มีการขึ้นบัญชีของผู้ให้บริการ รถเด็กนักเรียนหรือรับบริการแก่ผู้สูงอายุ ที่ทำเป็นรถรับจ้าง ควรมีมาตรฐานที่ดี

“ ให้กรมการขนส่งขึ้นบัญชีว่ารถบริการที่จะให้บริการแก่ผู้สูงอายุหรือเด็กนักเรียนมีบริษัทไหนบ้างให้ขึ้นบัญชีไว้ว่ากี่ประเภท คิดว่าน่าจะช่วยได้ ในวันเกิดอุบัติเหตุหากประตูฉุกเฉินเปิดได้หรือมีคนที่รู้ว่ากระจกบานใดทุบได้ กรณีที่มีค้อนทุบกระจก ก็สามารถที่จะทุบและกระโดดออกมาจากหน้าต่างได้ ดีกว่าเสียชีวิตแบบนี้“ นายวุฒิชาติกล่าว .-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]

เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก-เจ้าคุณประสิทธิ์ สึกแล้ว

พิษณุโลก 16 ก.ค. – พระชั้นผู้ใหญ่ที่พัวพันสีกากอล์ฟยังทยอยสึกเพิ่ม ล่าสุด “เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก” แอบสึกแล้วที่วัดสว่างอารมณ์ จ.ตาก หลังมีข่าวลือสะพัดมาตั้งแต่เช้า ขณะที่ “เจ้าคุณประสิทธิ์” ถอดใจสึกแล้ว พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก เป็นพระชั้นผู้ใหญ่อีก 1 รูป ที่มีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ ซึ่งในช่วงเช้ามีข่าวลือว่าจะลาสิกาในวันนี้ ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบตามวัดต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร มีตำรวจนอกเครื่องแบบ และเจ้าหน้าที่ มาคอยเฝ้าดูแลตลอดเวลา กระทั่ง เวลา 12.00 น. เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ปรากฏตัวในชุดขาว คาดว่าไปลาสิกขาที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก สำหรับพระราชรัตนสุธี มีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูงรูปหนึ่ง เพราะมีบทบาทสำคัญและมีคุณูปการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้รุ่งเรือง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกมายืนยันเช่นกันว่า ขณะนี้อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ทำการลาสิกขาแล้ว และวันนี้เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก็มารายงานตัวกับเจ้าคณะใหญ่หนกลางด้วยเช่นเดียวกัน กรณีเอกสารสำนักพุทธจังหวัดสมุทรสาครหายออกไปจากวัด ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าเอกสารยังมีอยู่หรือไม่ และถ้าหากเอกสารหายไปจริงก็ถือว่าเป็นการผิดวินัย และเจ้าอาวาสบกพร่อง ต้องไปดูด้วยว่าสาเหตุที่หายเพราะอะไร เพราะเอกสารทางราชการมีการรับส่งเป็นระบบ […]

เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ”

กทม. 16 ก.ค.-เปิดคำสารภาพ “สีกากอล์ฟ” ด้านอดีตพระมหาบุญเลิศ แฉถูกสีกากอล์ฟ กุเรื่องลวงไปบ้านพัก ซ้ำถูกเชิดเงิน 1 แสน เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่ม พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีน.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ว่า จากการสอบปากคำเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก พร้อมให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ซึ่งในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. จะนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อฝากขังเป็นผัดแรก ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ น.ส.วิลาวัลย์ ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ว่า เบื้องต้น สีกากอล์ฟ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี รวมถึงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งจากการสอบปากคำเบื้องต้นเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยอมรับในข้อเท็จจริงว่าเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่รูปต่างๆ จริง ส่วนกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขู่รีดเอาเงิน และบังคับทิดแหล่ ให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ เรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เจ้าตัวอ้างว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าเป็นคนให้ทิดแหล่ร่างหนังสือดังกล่าวจริง เพียงแต่เป็นการไหว้วาน ไม่ได้เป็นการบังคับ […]