“สว.วุฒิชาติ” ชงญัตติด่วนไฟไหม้รถทัศนศึกษา

รัฐสภา 7 ต.ค. – “สว.วุฒิชาติ” ชงญัตติด่วนไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เน้นติดตามตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัย หากพบตรวจทิพย์ควรดำเนินคดี แนะกรมขนส่งทางบกขึ้นบัญชีรถที่ให้บริการสำหรับผู้สูงอายุ-นักเรียน


นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกวุฒิสภา กล่าวถึงการเสนอญัตติ แนวทางการป้องกัน แก้ไข ช่วยเหลือเยียวยา ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ว่า ประเด็นหลักคงไม่ต่างกัน กับทางสภาผู้แทนราษฎรที่มีการตั้งญัตติด่วนมาก่อนหน้านี้ในเรื่องความห่วงใยต่ออุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งในวันนี้เป็นการฝากข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล ว่าจะหามาตรการอย่างไรสำหรับการสูญเสีย ทั้งการกำหนดความเหมาะสมของเด็กนักเรียนที่ไปดูงานอายุการช่วยเหลือตัวเอง รวมถึงหลายแนวทาง

ส่วนแนวทางในการแก้ปัญหาจริงจังในเรื่องนี้นั้น นายวุฒิชาติ เชื่อว่ามาตรฐานความปลอดภัย แต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบ ค่อนข้างเข้มงวดอยู่แล้วแต่ขาดการติดตาม เช่นตรวจสภาพไปแล้วอาจจะมีการตรวจติดตามทุก 2 เดือน 3 เดือน ไม่ใช่ต้องรอเมื่อครบวาระแล้วเข้ามาตรวจอีกที และอาจจะมีการอบรมผู้ให้บริการ ที่ควรให้ความรู้กับผู้โดยสารเช่นเดียวกับกรณีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่มีการให้คำแนะนำก่อนบิน


นายวุฒิชาติ กล่าวถึงการหลบเลี่ยงการตรวจสอบที่รถไปถอดถังแก๊สออกที่จังหวัดนครราชสีมา ว่าเรื่องนี้เป็นประเด็น เช่นมาตรฐานความปลอดภัยให้ติดตั้ง 3-4 ถังแต่มีการติดตั้งเพิ่มก็ขาดเรื่องความปลอดภัย และมาตรการตรวจติดตามเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งกรมการขนส่งทางบก มีการตรวจพิเศษอยู่แล้วก็ต้องดูการตรวจที่ต้นทางหรือตรวจปลายทาง แต่สิ่งที่ตนสบายใจคือกรมการขนส่งทางบกได้นัดรถเข้าไปตรวจแต่มีการนำรถไปถอดถังแก๊สที่จังหวัดนครราชสีมา ก็มี GPS ที่ติดตามสถานการณ์ได้ทันท่วงที

ส่วนการเข้าไปตรวจสภาพของรถที่ได้มีการถอดถังแก๊สออกก่อน ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่เห็น จะเป็นการตรวจสอบยากขึ้นหรือไม่ นายวุฒิชาติ กล่าวว่า ถ้ามองในแง่ดีก็เป็นเช่นนั้นแต่ถ้ามองอีกแง่คือเป็นการสมรรู้ร่วมคิด เช่นตอนตรวจมีเท่านี้แต่พอตรวจผ่านไปใส่เพิ่ม

สำหรับเรื่องนี้ถือเป็นมาตรการที่หละหลวมของเจ้าหน้าที่กรมขนส่งทางบกหรือไม่นั้น นายวุฒิชาติ กล่าวว่า เราคงต้องมาเน้นย้ำถึงมาตรการ ว่าต้องดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องของการตรวจทิพย์ ถ้ามีการตรวจทิพย์จริงก็ต้องดำเนินการให้ถึงที่สุดในด้านของกฎหมาย โดยในช่วงบ่ายวันนี้ (7ต.ค.) คณะกรรมาธิการการคมนาคมวุฒิสภา ได้ตั้งประเด็นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เชิญมาชี้แจง ในเรื่องการขอความร่วมมือ และช่วยกำชับในเรื่องของความปลอดภัย


“ถ้าวันนี้เป็นลูกหลานคุณคนที่รับผิดชอบคุณจะคิดยังไง ถ้าเป็นการสูญเสียของลูกหลานคุณเราต้องช่วยกันสร้างจิตสำนึกในเรื่องพวกนี้”นายวุฒิชาติกล่าว

นายวุฒิชาติ ยังแสดงความเห็นกรณีที่มีการเสนอให้ยกเลิกการทัศนศึกษา ว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งในข้อเท็จจริงต้องดูปัญหาที่ต้นเหตุ หากมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ดี เชื่อว่าในประเด็นนี้จะไม่เกิดขึ้น ในเรื่องนี้อาจจะเป็นความตื่นตระหนกและต้องสร้างความมั่นใจ ล่าสุดกรมการขนส่งก็ต้องเรียกรถเข้าไปตรวจทั้งหมด อย่างไรก็ตามคาดว่าการอภิปรายญัตติด่วนวันนี้จะมีผู้ลงชื่ออภิปรายจำนวนมากเนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และในช่วงก่อนเปิดประชุมจะมีกิจกรรมยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

นายวุฒิชาติ ยังกล่าวว่าในฐานะประธานคณะกรรมาธิการคมนาคมย้ำว่าหลายประเด็นข้อสงสัยในวันนี้(7ต.ค.)จะซักถามที่กรมการขนส่งทางบก โดยเฉพาะการตรวจมาตรฐานการตรวจรถ และในฐานะที่ได้ร่วมงานกรมการขนส่งมานาน และหยิบยกว่า บขส. จะไม่มีปัญหาในเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย ยกเว้นกรณีบางคนที่ซิกแซ็กดัดแปลงภายหลังทำให้ขาดมาตรฐานความปลอดภัย ขณะเดียวกันการปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่รัฐกำหนดถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ประกอบการซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งเป็นจิตสำนึก ถามกลับไปถ้าเกิดเกิดวันหนึ่งเป็นลูกหลานคุณที่นั่งอยู่บนรถ เป็นญาติพี่น้องจะรู้สึกอย่างไร และย้ำว่าในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้บริการรถสาธารณะจะต้องให้ความรู้ก่อนการเดินทาง อย่างเช่นการเดินทางโดยเครื่องบินที่จะมีเจ้าหน้าที่มาอธิบายถึงการใช้เครื่องมืออุปกรณ์หากเกิดกรณีฉุกเฉิน ส่วนตัวต้องการให้มีการขึ้นบัญชีของผู้ให้บริการ รถเด็กนักเรียนหรือรับบริการแก่ผู้สูงอายุ ที่ทำเป็นรถรับจ้าง ควรมีมาตรฐานที่ดี

“ ให้กรมการขนส่งขึ้นบัญชีว่ารถบริการที่จะให้บริการแก่ผู้สูงอายุหรือเด็กนักเรียนมีบริษัทไหนบ้างให้ขึ้นบัญชีไว้ว่ากี่ประเภท คิดว่าน่าจะช่วยได้ ในวันเกิดอุบัติเหตุหากประตูฉุกเฉินเปิดได้หรือมีคนที่รู้ว่ากระจกบานใดทุบได้ กรณีที่มีค้อนทุบกระจก ก็สามารถที่จะทุบและกระโดดออกมาจากหน้าต่างได้ ดีกว่าเสียชีวิตแบบนี้“ นายวุฒิชาติกล่าว .-319 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]

พบหลุมระเบิดที่กัมพูชายิงใส่ไทย 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดน

กทม. 10 ส.ค.-เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ใน 4 จังหวัดชายแดนไทย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล เพจเฟซบุ๊ก “กองทัพบก ทันกระแส” โพสต์ว่า เจ้าหน้าที่ EOD เข้าพื้นที่เก็บกู้ระเบิด พบหลุมระเบิดที่เกิดจากฝีมือกัมพูชามากถึง 824 หลุม ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่พลเรือนและโรงพยาบาล ซึ่งสร้างความเสียหายและความหวาดกลัวให้ประชาชน ที่กำลังทยอยกลับเข้าพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านพักอาศัย ข้อมูลที่เพจโพสต์แสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นใน 4 จังหวัดชายแดน ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ซึ่งเป็นผลจากการยิงอาวุธของกัมพูชาใส่เป้าหมายพลเรือน ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องอพยพหนีภัยสงคราม และหากสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ประชาชนเริ่มกลับเข้าสู่พื้นที่ตนเอง แต่ต้องเผชิญกับอันตรายจากระเบิดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ EOD ทำงานอย่างหนัก เพื่อเร่งเก็บกู้ระเบิดให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในบ้านของตนเองอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย

ชวนชมดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม

ทำเนียบ 10 ส.ค.-รัฐบาลเชิญชวนชมความงดงามของดวงไฟประดับรอบกรุงเทพฯ ในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี (วันแม่แห่งชาติ) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และ MEA หรือการไฟฟ้านครหลวง ร่วมใจกัน ติดตั้งไฟประดับทั้ง 2 ข้างทาง เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามของดวงไฟประดับ เนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ โดยการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการติดตั้งไฟประดับจำนวนกว่า 2 ล้านดวง เพื่อประดับในสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ พระที่นั่งอัมพรสถาน วังศุโขทัย พระบรมมหาราชวัง บริเวณท้องสนามหลวง รอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วังสระปทุม พระที่นั่งอนันตสมาคม ลานพระบรมรูปทรงม้า สนามเสือป่า ทำเนียบองคมนตรี กระทรวงมหาดไทย ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนศรีอยุธยา ตั้งแต่วันนี้ – […]

ไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่ง

กทม. 10 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยฝนเพิ่มขึ้น ตกหนักบางแห่งบริเวณภาคอีสาน ตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก คลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ […]