ดีเอสไอประกาศพระธัมมชโยเป็นบุคคลหนีคดี



ปทุมธานี 10 มี.ค. กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประกาศให้พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายเป็นบุคคลหนีคดี ยืนยันตามตัวจนกว่าคดีหมดอายุความ


17 18

วันนี้เป็นวันที่ 23 แล้วที่วัดพระธรรมกายและโดยรอบวัด เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษตามม. 44 ซึ่งช่วงเย็นที่ผ่านมา พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง นำโดยพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจ.ปทุมธานี สำนักงานพระพุทธศาสนา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พร้อมคณะทำงานได้แถลงข่าวที่ห้องประชุมที่อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่าการตรวจค้นวัดพระธรรมกายนั้นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษยึดหลักทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกครั้ง โดยวันที่ 16-18 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจค้นไปแล้วทั้งสามโซน ซึ่งยังมีลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายยังขวางการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ต้องขอตรวจค้นในวันนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปภายในตัวอาคารบุญรักษาได้ หลังถูกลูกศิษย์วัดพระธรรมกายขัดขวาง

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจค้นทั้ง 3 โซนแล้ว ก็ยังไม่พบบุคคลตามหมายจับ ซึ่งมีการประสาน ด่านจุดตรวจ ด่านคนเข้าเมืองในจังหวัดต่างๆ เพื่อป้องกันบุคคลตามหมายจับหนีออกประเทศ และในส่วนของวัดพระธรรมกายนั้น วันนี้มีข้อตกลงกันว่า ตลาดกลางคลองหลวง พระภิกษุสงฆ์ พร้อมด้วยศิษย์ยานุศิษย์วัด จะรื้อเต็นท์ และให้ตลาดอยู่ในสภาพเดิม บริเวณถนนเลียบคลองแอน ทางวัดจะรื้อแสลนออกและเปิดทางให้บุคคลสัญจรได้ตามปกติ ส่วนการเข้าออกวัด บุคคลเข้าออกได้ตามปกติ แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ตรึงกำลังทุกประตูเพื่อป้องกันเหตุ


สำหรับเจ้าหน้าที่ นับจากวันนี้ไปจะมีการลดกำลังลง แต่ยังคงตั้งด่านเพื่อป้องกันเหตุแทรกซ้อนไว้เช่นเดิม ในส่วนของม. 44 ที่ใช้กับทางวัดพระธรรมกาย รวมทั้งการตัดสัญญาณโทรศัพท์ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะนำกลับมาใช้ได้เหมือนเดิมอีกเมื่อไหร่ แต่ในส่วนติดตามจับกุมตัวของ พระธัมมชโยนั้น พนักงานเจ้าหน้าที่ก็ยังติดตามจับกุมเหมือนเดิม เพราะมีอายุความ 15 ปี ส่วนขั้นตอนการดำเนินต่อไปจากนี้ จะมีพระบุญญาธิการ และเจ้าคณะจ.ปทุมธานี มาร่วมการปฏิบัติการด้วย เพื่อติดตามจับกุมพระธัมมชโย มาดำเนินคดีให้ได้

ขณะที่วันนี้ มหาเถรสมาคมก็มีการประชุมกันเรื่องนี้ โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 1.30 ชั่วโมง หลังประชุม สมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน พร้อมด้วยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ และคณะกรรมการมหาเถรสมาคม พันตำรวจโท พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกันแถลง ผลการประชุมว่า พศ.ได้กราบทูลสมเด็จพระสังฆราชเรื่อง พระราชโองการให้พระธัมมชโยและพระทัตตชีโว ออกจากสมณศักดิ์ ซึ่งที่ประชุม มส. รับทราบเรื่อง ส่วนกรณีพระธัมมชโย พศ.ทำหนังสือ ขอให้ใช้กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21ข้อ 3 (1) กรณีพระภิกษุประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเป็นอาจิณ ดำเนินการด้านพระธรรมวินัยพระธัมมชโย

โดยวันนี้ที่ประชุม มส.ไม่ได้มีการวินิจฉัยว่า จะให้พระธัมมชโยสละสมณเพศแต่อย่างใด ซึ่งขั้นตอนกระบวนการจากนี้ มหาเถรสมาคมจะแจ้งเรื่องไปยังสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง จากนั้นเจ้าคณะใหญ่หนกลางจะแจ้งเรื่องไปยังเจ้าคณะปกครองตามลำดับชั้นจนถึงพระวิเทศภาวนาจารย์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ดำเนินการพิจารณาตามขั้นตอนของ กฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 ข้อ 3 (1) ซึ่งเจ้าอาวาสมีอำนาจหน้าที่ตักเตือนเป็นหนังสือ กำหนดเวลาให้ปฏิบัติ หากยังฝ่าฝืน เจ้าคณะทางปกครองตามลำดับ จะวินิจฉัยให้สละสมณเพศ และพระภิกษุรูปนั้นจะต้องสละสมณเพศภายใน ๓ วัน หากไม่พบตัว หรือไม่ยอมรับ ให้ปิดประกาศคำวินิจฉัย ณ ที่พำนักอาศัย และถือว่าทราบคำวินิจฉัยดังกล่าวแล้ว โดยกฎฉบับนี้ไม่ได้มีการกำหนดเงื่อนไขเวลาไว้ แต่คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เพราะเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนจึงต้องดำเนินการโดยเร็ว

ส่วนกรณีที่สังคมกล่าวถึงการสั่งให้สึกกลางอากาศนั้น ผอ.พศ.ระบุไม่เป็นความจริง เนื่องจากว่ากระบวนการทางสงฆ์ต้องมีขั้นตอนโดยสามารถพิจารณาโทษทางพระธรรมวินัยได้แม้ตัวผู้กระทำผิดจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ตาม ซึ่งต่างการพิจารณาทางคดีอาญา ที่จะต้องได้ตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ดังนั้นการพิจารณาตาม กฎ มส. ฉบับที่ ๒๑ หากพระธัมชโยไม่มาแก้ข้อกล่าวหา คณะสงฆ์ก็สามารถดำเนินการวินิจฉัยโทษตามพระธรรมวินัยได้ทันที

ทั้งนี้การที่ พศ.เสนอให้ กฎ มส.ฉบับที่ 21 ถือเป็นเพียงกระบวนการเริ่มต้นของการพิจารณาทางพระธรรมวินัยของพระธัมมชโยเท่านั้น หากมีใครมาร้องเรื่องพระธรรมวินัยของพระธัมมชโย พศ.จะส่งเรื่องต่างๆให้เจ้าคณะปกครองดำเนินการพิจารณา เพราะ พศ.ไม่มีอำนาจในการพิจารณาได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

ทุจริตยาโรงพยาบาล

ปปป.เตรียมระดมพลร่วมทำคดีทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ปปป.เตรียมระดมพนักงานสอบสวนในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมทำคดีทุจริตยาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลทหารผ่านศึก พร้อมเตรียมลงพื้นที่ลพบุรี สอบผู้ป่วยกว่า 100 คน ว่าใช่ผู้ป่วยที่แท้จริง มีความจำเป็นต้องใช้ยาหรือไม่ ในเร็ว ๆ นี้

ตร.ไซเบอร์เร่งสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างสอบปากคำ 93 ผู้ต้องหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ พฤติการณ์เชื่อมโยง 46 คดี ที่มีผู้เสียหายแจ้งความในไทย พบข้อมูลผู้ต้องหาบางรายโพสต์โซเชียลหางานสีเทาเอง ส่วนเยาวชน 2 ราย อยู่ระหว่างรวบรวมออกหมายจับ หลังพบสมัครใจร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

ชายแดนไทย-เมียนมา ยังระอุ ปะทะเดือดใกล้จุดแตกหัก

ทหารกะเหรี่ยงใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีฐานทหารเมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 800 เมตร โรงเรียนในฝั่งไทย ซึ่งอยู่ติดแนวปะทะ หยุดการเรียนการสอน 1 วัน ขณะที่มีชาวเมียนมาหนีภัยสู้รบเข้าไทยกว่า 400 คน