กรมสอบสวนคดีพิเศษ 13 พ.ค.- ดีเอสไอ เผยสอบโยงเส้นเงินฮั้ว สว.แล้ว 1,200 ราย แจงต้องรอบคอบ เพราะสำนวนคดีฮั้วและฟอกเงิน เป็นฐานความผิดอาญา ต่างจากสำนวน กกต. ที่กฎหมายเน้นเพียงการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ยุติธรรมและตัดสิทธิผู้สมัครเท่านั้น ยัน 2 หน่วยทำงานประสานกัน
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี กรณีฮั้วเลือก สว. ซึ่งล่าสุด กกต. ได้ออกหมายเรียก 53 สว. ว่า เท่าที่ทราบ เบื้องต้น กกต. ให้สว. ที่ถูกกล่าวหา ชี้แจงเป็นเอกสาร แต่หากมี สว. รายใด ต้องการเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หรือ กกต. เรียก สว. เข้าให้ปากคำ ตนเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ซึ่งร่วมสอบสวนกับกกต.ตามที่ กกต. ร้องขอมาก่อนหน้านี้ ก็จะเข้าร่วมในการรับฟังด้วย ซึ่งเชื่อว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มาใช้กับสำนวนคดีอั้งยี่และฟอกเงิน ที่ดีเอสไอดำเนินการอยู่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนดีเอสไอ จะสามารถแจ้งข้อกล่าวหา สว. ในฐานฟอกเงินและอั้งยี่ ได้ ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้หรือไม่นั้น อยากให้เข้าใจว่าการทำงานของ กกต. และดีเอสไอ ต่างกัน กล่าวคือ กกต. กฎหมาย กำหนดให้พิสูจน์ความบริสุทธิยุติธรรมและการลงโทษ เป็นเรื่องของการตัดสิทธิ แต่ของดีเอสไอ เป็นเรื่องของความผิดทางอาญา ซึ่งต้องทำด้วยความรอบคอบ ทั้งการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหา และต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหา นำหลักฐานมาหักล้างก่อนที่จะประเมินและสรุปสั่งคดี โดยขณะนี้ มีการสอบบุคคลที่เกี่ยวกับเส้นเงินไปแล้วกว่า 1,200 ราย ดังนั้น ยังไม่อยากยืนยันว่า จะแจ้งข้อหาได้ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม หรือไม่ แต่ยืนยันเจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างเต็มที่ -313 .-สำนักข่าวไทย