พาณิชย์ยืนยันสิทธิบัตรไม่ได้ทำให้ราคายาสูงขึ้น

นนทบุรี 12 มี.ค. – นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ขณะนี้มีคำขอสิทธิบัตรค้างมากถึง 36,000 คำขอทั้งสิทธิบัตรของคนไทยและต่างชาติ แต่เจ้าหน้าที่ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ดูแลเรื่องนี้มีเพียง 24 คนเท่านั้น ดังนั้น


จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 และอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดและความจำเป็นของ คสช.ที่จะประกาศใช้มาตราดังกล่าว ซึ่งทางกรมฯเห็นว่ามีความจำเป็นเพื่อเข้ามาแก้ปัญหาการออกสิทธิบัตรด้วยการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ให้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้อีก 120 คนที่จะต้องนำมาฝึกฝนให้มีความเชี่ยวชาญภายในเวลา 2 ปีถือเป็นขั้นตอนอย่างเร็ว แต่หากใช้ขั้นตอนตามปกติกว่าจะได้บุคคลกรตามจำนวนดังกล่าวและต้องผ่านการฝึกฝนอาจต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี จะทำให้การพิจารณาสิทธิบัตรในด้านต่างๆล่าช้าตามไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการใช้มาตรการพิเศษดังกล่าวจะเน้นใช้เพื่อเร่งการพิจาณาคำขอสิทธิบัตรที่ค้างอยู่กว่า 36,000 คำขอ โดยเป็นสิทธิบัตรในด้านนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ใหม่ทุกด้าน เช่น ด้านเคมีวิศวกรรม ฟิสิกส์ ไฟฟ้า รวมถึงสิทธิบัตรยาที่ได้ยื่นคำขอเกินกว่า 5 ปีมาแล้ว ดังนั้น ข้อกังวลมีคำขอสิทธิบัตรยาที่ค้างการพิจารณา 3,000 คำขอในการรับจดสิทธิบัตรยาจะพิจารณารับจดเฉพาะยาใหม่ที่เป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่ยาเก่าจะไม่มีการรับจดสิทธิบัตรอยู่แล้ว ดังนั้น กรมทรัพย์สินทางปัญญาพร้อมที่จะให้ความร่วมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการส่วนข้อกังวลเรื่องสิทธิบัตรยานั้น ทางคณะกรรมการอาหารและยา(อ.ย.) กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้งว่าจะให้ขึ้นทะเบียนยาได้หรือไม่ ส่วนราคายา กระทรวงพาณิชย์ มีมาตรการดูแลราคายาโดยมีกฎหมายควบคุมราคาสินค้ากำกับอยู่แล้ว และหากเป็นยาที่จำเป็นและมีราคาแพงที่มาจากต้นทุนในด้านต่างๆที่สูงมากทางกรมการค้าภายในจะเชิญผู้ประกอบการมาต่อรอง เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นธรรมไม่ให้เกิดเอาระดเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างแน่นอน


อย่างไรก็ตาม ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาขอยืนยันว่ามาตรการนี้จะใช้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะหากเทียบการทำงานในการตรวจรับคำขอที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ เจ้าหน้าที่ 1 คนต้องตรวจสอบคำขอถึง 325 คำขอ หากเทียบกับประเทศอาเซียนด้วยกัน เช่น มาเลเซีย 110 คนต่อ 77 คำขอ ฟิลิปปินส์ 49 คนต่อ 83 คำขอ เวียดนาม 58 คนต่อ 77 คำขอ ดังนั้น การเพิ่มบุคลากรจะช่วยให้การพิจารณาสิทธิบัตรทำได้เร็วขึ้น และจะใช้วิธีตรวจสอบที่มีการยื่นคำขอไว้แล้วในต่างประเทศว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่มีการตรวจสอบแล้วมาอ้างอิงจะช่วยทำให้การตรวจสอบและการออกสิทธิบัตรทำได้เร็วขึ้นอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง