สังศิต ชี้สินบนโรลส์รอยซ์ เป็นการฟอกเงินระดับประเทศ

19857419สำนักงาน กกต. 27 ม.ค.- “สังศิต” ชี้ ปัญหาสินบนโรลส์รอยซ์ เป็นการฟอกเงินระดับประเทศ  ไม่ใช่แค่เรื่องการคอรัปชั่น  ระบุไทยเป็นสมาชิกยูเอ็น และทำข้อตกลงความร่วมมือกำหนดมาตรฐานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน  ทำให้การฟอกเงินไม่มีอายุความ สามารถจัดการกับผู้ร่วมคอร์รัปชั่นในประเทศไทยได้  กรรมการ ปปช. โวย เอาข้อมูลมาเปิดเผยส่งผลต่อรูปคดี และทำให้ยากในการประสานข้อมูลต่างประเทศ และความไว้วางใจ


ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงาน กกต. ว่าเมื่อเวลา 9.00 น. สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.8)  จัดอภิปรายเรื่อง “คอร์รัปชั่นกับปัญหาในการพัฒนาประเทศ” โดยนายสังศิต  พิริยะรังสรรค์ สปท. และคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวว่า สถานการณ์โลกไปไกลกว่า  หัวข้อคอรัปชั่นมีผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างไร  เนื่องจากคอรัปชั่นเปลี่ยนแปลงความหมายในตัวเองไปตลอดเวลา   เพราะนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐมีการเปลี่ยนรูปแบบตลอด   จนนิยามการคอรัปชั่นของยูเอ็นก็ยังต้องเปลี่ยน   ของไทยก็พยายามเปลี่ยนมาตรการรับมือ แต่ไม่ทัน  เพราะยังมีคนค้าน พ.ร.บ.ผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่   ขณะที่โลกก้าวไปอีกก้าวไปถึงเรื่องการฟอกเงิน  เขามองว่าเงินสกปรกที่ได้มา  หากเข้ามาหมุนในระบบเศรษฐกิจจะถือเป็นการฟอกเงิน   หากทุจริตมาแล้วเก็บยังไม่ถือเป็นการฟอกเงิน

“เรื่องสินบนโรลส์รอยซ์กำลังทำให้เกิดความสะเทือนอย่างหนัก   ขอทำนายว่าหากสองสามเดือนข้างหน้าแก้ปัญหาไม่ตกจะเกิดปัญหามโหฬาร  คนไทยจะตกอยู่ในภาวะลำบาก เพราะมีข่าวว่าการทุจริตฉุดความเชื่อมั่น  ในขณะที่ยูเอ็นจับมือกันสู้ไม่ใช่แค่คอรัปชั่น  แต่เขาจะจับเรื่องการฟอกเงิน   ประเทศมหาอำนาจจะเริ่มควบคุมการให้สินบนประเทศต่าง ๆ โดยจะถือเป็นการฟอกเงิน”  นายสังศิตกล่าว


นายสังศิต  กล่าวว่า ที่เราเผชิญหน้าเรื่องสินบนโรลส์รอยซ์   ซึ่งต้นเรื่องเกิดขึ้นจากบริษัทแม่ที่อังกฤษ  กับบริษัทลูกด้านพลังงาน   ที่รัฐโอไฮโอสหรัฐ   อย่างที่ทราบข่าวว่าสินบนโรลส์รอยซ์ ขอยอมเสียค่าปรับ 170  ล้านดอลล่าร์ให้สหรัฐ และ 605 ล้านดอลล่าร์ให้อังกฤษ  และให้บราซิลอีก 25 ล้านดอลล่าร์  รวมว่า 800 ล้านดอลลาห์   ทั้งสองประเทศให้จับมือกันโดยมีเอกสารมัดราว 30 ล้านแผ่น  จนโรลส์รอยซ์ไม่สู้  แต่ประเทศไทยยังไม่ดำเนินการทำอะไรเลยทั้งที่มีเอกสาร  52 แผ่น  ที่เกี่ยวข้องกับ ปตท. และ ปตท.สผ.  กับ 40 แผ่นที่เกี่ยวข้องกับการบินไทย   เอกสารที่เกี่ยวข้องสรุปว่ามีการจ่ายเงินติดสินบนในสองหน่วยงาน   ถามว่าทำไมในต่างประเทศเขาจับได้  แต่ในประเทศไทยจับไม่ได้ต้องไปขอข้อมูลขอความร่วมมือ  เพราะสหรัฐมี 2 หน่วยงานตรวจสอบ  คือ กลต. เป็นหน่วยงานตรวจสอบบัญชี  และกระทรวงยุติธรรม  เป็นหน่วยงานยึดทรัพย์แยกจากกันเพื่อถ่วงดุล   แต่ของไทยพิลึก  คือ ป.ป.ง.  ทำทั้งตรวจสอบและอายัดทรัพย์   ทั้งที่การตรวจสอบการฟอกเงินต้องคำนึงถึงระบบการถ่วงดุล  อย่าให้องค์กรใดมีอำนาจเบ็ดเสร็จองค์กรเดียว

นายสังศิต  ยังกล่าวว่ากรณีของไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับสินบน 11 ล้านดอลล่าร์  จากสัญญาจ้าง 7 โครงการ  ถือเป็นหน่วยงานรัฐบาลและถูกตีความเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ   ปัญหาของเราคือเราเพิ่งแก้กฎหมาย ป.ป.ช.  ในยุครัฐบาลนี้ให้รวมเอกชนที่ให้สินบนมีความผิดทุจริตด้วย   จากเดิมเพียงนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้น  ตรงนี้ยังมีความผิดปรกติในกฎหมาย ป.ป.ง. คือปี 2550  คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน  หรือ องค์กร FATF ตรวจสอบ ป.ป.ง.  พบว่าทำไมมีเพียงองค์กรเดียวที่ใช้อำนาจ  และเสนอว่าควรให้ ป.ป.ช. ปปท. กับดีเอสไอ ร่วมบังคับใช้กฎหมายด้วย

นายสังคิต  กล่าวว่า คำถามที่ว่าบางคดีทั้งแพ่งและอาญาในกรณีสินบนโรลส์รอยซ์  ที่หมดอายุความจะไปดำเนินการอย่างไร   สำหรับประเทศไทยมีทางออก   คือ การที่เราเป็นสมาชิกยูเอ็น   ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกำหนดมาตรฐานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน    มีการระบุว่าการฟอกเงินไม่มีอายุความถ้าเราเอามาใช้ก็จะสามารถจัดการกับผู้ร่วมคอร์รัปชั่นในประเทศไทยได้    ทั้งนี้มาตรการที่เราไปตกลงกับยูเอ็นในปี 2549   ระบุว่าการจัดซื้อของรัฐ  และการจัดการเงินของรัฐบาลหากกระทำผิดถือเป็นการฟอกเงิน   ถามว่ากระบวนการที่ ปตท. และการบินไทยสำเร็จตามที่  FATF กำหนดหรือไม่  พบว่าองค์ประกอบสำเร็จทั้ง 3 ขั้นตอนตามกระบวนการฟอกเงิน   คือนำเข้าสู่ระบบการเมือง  มีการปิดบังอำพราง  และมีการนำเงินนี้กลับสู่ระบบเศรษฐกิจที่ถูกกฎหมาย   ถือว่าครบตามกรอบของ FATF  จึงเข้าข่ายกระบวนการฟอกเงิน


นายสังศิต  ยังกล่าวยืนยันว่ารัฐบาลไทยมีสิทธิ์ขอข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามพันธกรณีอนุสัญญา FATF  โดยยังมีเงินอีกก้อนที่ส่งไปสิงคโปร์ที่เกี่ยวกับ ปตท. ปตท.สผ. และการบินไทย   ซึ่งมีเอเชียแปซิฟิกกรุ๊ป  หรือ  APG  ที่ก่อตั้งขึ้น  มีพันธกรณีที่สิงคโปร์ต้องเอาข้อมูลให้รัฐบาลไทย   ถ้าไม่ให้ทั้งสหรัฐและสิงคโปร์ก็มีความผิด   และตามข้อเสนอแนะ 40 ประการของ  FATF ระบุชัดว่าประเทศที่เป็นสมาชิกห้ามขัดขวางการขอข้อมูล   ดังนั้นถ้ารัฐบาลไทยขอ  ต้องให้  และข้อมูลการเงินระหว่างประเทศและในประเทศต้องเก็บไปอย่างน้อย 5 ปี   และประเทศไทยยังสามารถขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสหรัฐฯ และหากไม่ขอจะถือว่ามีความผิดด้วยฐานช่วยปกป้องคนทุจริต

นายสังศิต   ยังกล่าวว่า  เรื่องนี้จะมีการตรวจสอบอีกครั้งว่ามีการทำตามข้อตกลงเสร็จสิ้นหรือไม่   ตอนนี้ ปปง. มีเวลาเหลือแค่ 27 สัปดาห์   หาก ปปง. ไม่ยอมทำ  จะเป็นเดิมพันของทั้งประเทศที่มีเจ้าหน้าที่ไทยรับผิดชอบอยู่คนเดียว   และสัปดาห์แรกของพฤษภาคมปีนี้   หาก ปปง. ไม่แก้ไขตามข้อเสนอแนะอันเกี่ยวเนื่องกับพันธสัญญาระหว่างประเทศดังกล่าว   สิ่งที่เกิดขึ้นคือจะมีการถูกลงโทษ   เพราะถือว่าระบบธนาคารไทยไม่โปร่งใส   กลายเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงจากการฟอกเงิน  และจะถูกตัดออกจากประเทศร่วมค้าในระบบการเงิน   แปลว่าธนาคารไทยจะทำธุรกรรมกับหลายประเทศไม่ได้   ทำให้สถาบันการเงินไทยเกิดภาวะไม่มั่นคง  นี่คือมรสุทมใหญ่ที่สุดที่รัฐบาลนี้กำลังเผชิญในต้นพฤษภาคมนี้

“มีเจ้าหน้าที่เพียง 1 คน ที่กำลังตัดสินใจที่เกี่ยวพันกับชะตากรรมของประเทศ  ผมขอให้สัญญาณกับรัฐบาล  ขอให้นายกรัฐมนตรีรีบดำเนินการ   เพราะในปี 2559 ประเทศไทยถูกจัดลำดับความเสี่ยงที่ 156   อยู่ในความเสี่ยงอันดับ 4  ถือว่าอยู่ในช่วงอันตรายแล้ว   อยากฝากถึงรัฐบาลขอให้รีบจัดการให้ประเทศไทยก้าวพ้นมรสุม   จากภัยพิบัติทางการเงิน”  นายสังศิตกล่าว

อย่างไรก็ตามนายสังศิต  ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลจะต้องเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ และจะต้องมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับการฟอกเงิน โดยต้องเอา ป.ป.ช.  ปปท. และดีเอสไอ. เข้ามามีส่วนร่วมตามข้อเสนอของ FATF   ไม่ใช่เอา ป.ป.ท. ดีเอสไอ. ออกไปจากการตรวจสอบเหมือนเป็นอยู่ในปัจจุบัน และต้องมีการเปลี่ยนอำนาจของ ป.ป.ง. ใหม่  ให้มีอำนาจเฉพาะยึดทรัพย์และอายัดเท่านั้น  เพื่อให้มีการถ่วงดุลกันระหว่างองค์กร   ดังนั้นรัฐบาลควรใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขกฎหมาย เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการฟอกเงินให้ทันสถานการณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างฟังการอภิปราย  นายสุรศักดิ์  คิรีวิเชียร กรรมการ ป.ป.ช.   ผู้รับผิดชอบคดีโรสรอยส์  ในฐานะนักศึกษา พตส. 8  ได้ขอโอกาสในการชี้แจง    กล่าวว่าองค์กรตรวจสอบเดี๋ยวนี้มีภาระหน้าที่ตามกฎหมาย   สิ่งที่เจ้าหน้าที่แถลงนั้นเพียงบางส่วนในสำนวนการสอบสวนเปรียบเทียบปรับเท่านั้น   กฎหมายเขาให้เปรียบเทียบปรับได้   แต่ของไทยต้องไปขึ้นศาล   เอกสารต่าง ๆ มีกระบวนการที่เปิดเผยไม่ได้   เอกสารที่เอามาอ่านยังไม่รู้ว่าเป็นเอกสารทางการหรือไม่   บางทีก็เข้าสำนวนสอบสวนไม่ได้   ไม่ใช่ว่าสำนวนเหล่านี้ศาลไทยจะรับฟัง   ตนไม่สามารถนำข้อมูลมาเปิดเผยเพราะมีกฎหมายบังคับไว้  ที่ว่าจะขอข้อมูลยังต้องไปดูกฎหมาย  มันยังมีรายละเอียดมากมายที่คนมีหน้าที่เขาต้องอ่าน

นายสุรศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า   การเอาคดีเหล่านี้มาพูด หรือมาเปิดเผย  มันจะทำให้อีกฝ่ายใช้โอกาสนี้เป็นช่องทางนำไปสู้คดีในชั้นศาล   การเปิดเผยข้อมูลเขามีกฎหมายและมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ   เขายังไม่รู้เลยว่าในบ้านเรามีหน่วยงานไหนที่รับผิดชอบ ที่จะดำเนินการตรวจสอบ การที่จะขอเอกสารยังต้องให้กระทรวงการต่างประเทศรับรอง   การที่เรารับข้อมูลต่าง ๆ แล้วมาวิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน่วยงานที่รับผิดชอบอาจไม่ถูกต้อง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย

กัมพูชา ทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก

กัมพูชา 19 ก.ค.-กัมพูชาทำหนังสือส่งถึงไทย ปฏิเสธวางกับระเบิดช่องบก ลั่นยึดมั่นอนุสัญญาออตตาวา ประณามคัดค้าน การผลิต และแสดงความเสียใจผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมผลักดันสู่กระบวนการพิสูจน์ เพื่อรักษามิตรภาพ ความปลอดภัย ไม่กล่าวหาซึ่งกัน เมื่อวันที่ 19 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชอาณาจักรกัมพูชา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ทำหนังสือ ถึงทางการไทย เรื่อง การปฏิเสธต่อการนําเสนอของสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่ง กรณีทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) สำานักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิคและช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (สํานักงานทุ่นระเบิด) ขอแจ้งว่า เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อมวลชนไทยจํานวนหนึ่งได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลจากข้าราชการระดับสูงของไทย และเผยแพร่เกี่ยวกับทหารไทย 3 นายได้รับบาดเจ็บจากระเบิด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณพิกัด WA 220861 (ยืนยันโดยฝ่ายไทย) อยู่ในพื้นที่มุมเบ็ย (ช่องบก) การเผยแพร่ดังกล่าว มีเจตนา กล่าวหาโดยไม่มีมูลความจริงและไม่มีการตรวจสอบที่ชัดเจนว่ากัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ ในการนี้สํานักงานทุ่นระเบิด ขอชี้แจงดังนี้ 1.สํานักงานทุ่นระเบิดขอปฏิเสธและปัดตกทั้งหมดต่อเนื้อหาข่าวที่เผยแพร่โดยมีเจตนากล่าวหาว่า กัมพูชาได้วางทุ่นระเบิดใหม่ 2.กัมพูชา […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]