พาณิชย์ถกด่วนกรณีข้าราชการระดับสูงขโมยภาพที่ญี่ปุ่น

กรุงเทพฯ 29 ม.ค. – ผู้บริหาร ก.พาณิชย์ ถกด่วนหาทางออกกรณีข้าราชการระดับสูงขโมยภาพที่ญี่ปุ่น พรุ่งนี้ หลังกระแสสังคมยังต้องการทราบบทลงโทษที่ชัดเจน พร้อมลงนามตั้งคณะกรรมการสอบสวน คาดได้ข้อสรุปภายใน 1 สัปดาห์


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) จะหารือร่วมกับนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อกรณีข้าราชการระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ขโมยภาพที่ญี่ปุ่น ซึ่งทุกอย่างมีขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้ว และจะลงนามตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงวันเดียวกันนี้ด้วย จากนั้นต้องเดินตามระบบ ส่วนจะปลดหรือลงโทษอย่างไรนั้น ต้องรอผลจากคณะกรรมการฯ ก่อน

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า แนวทางที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของกระทรวงพาณิชย์กลับมาดีขึ้นได้นั้น คณะกรรมการฯ จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสที่สุด เพราะเป็นกรณีที่สังคมกำลังจับตามอง และมีทั้งคนที่เห็นด้วย กับคนที่ไม่เห็นด้วยต่อกรณีการให้ปลดออกจากตำแหน่ง เพราะแม้ว่าจะปลดจากตำแหน่ง แต่กระบวนการสอบสวนก็ยังดำเนินต่อจนได้ข้อยุติ พร้อมแนวทางตัดสิน ซึ่งบทลงโทษก็มีหลายระดับ


นางอภิรดี เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า ขณะนี้ข้าราชการระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ได้รับการปล่อยตัวจากอัยการแล้ว เนื่องจากอัยการเห็นว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีร้ายแรง โดยเป็นการลักทรัพย์ที่ไม่ได้มีการเตรียมการไว้ก่อนล่วงหน้า อีกทั้งข้าราชการคนดังกล่าวยอมรับผิดและชดใช้ค่าเสียหายให้กับทางโรงแรมเจ้าของรูปภาพแล้ว

“ล่าสุดกระทรวงฯ ได้รับการติดต่อจากข้าราชการคนดังกล่าว และท่านได้กล่าวยอมรับและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งกล่าวขอโทษผู้บังคับบัญชาและเพื่อนข้าราชการ ตลอดจนคนไทยทุกคนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” นางอภิรดี กล่าว

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทรวงฯ ขอขอบคุณกระทรวงการต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ที่เป็นธุระติดต่อประสานงานกับทางการของประเทศญี่ปุ่น ตลอดระยะเวลาที่ข้าราชการคนดังกล่าวถูกควบคุมตัว โดยกระทรวงฯ เตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง มีกรรมการครบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักนายกรัฐมนตรี และผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ถูกต้อง และได้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดทุกด้าน โดยตั้งเป้าตรวจสอบให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นเมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอผลการตรวจสอบต่อผู้บังคับบัญชา และจะดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบราชการต่อไป อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่มีการตรวจสอบ กระทรวงฯ ได้มีคำสั่งให้ข้าราชการคนดังกล่าวมาช่วยงานที่สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ จนกว่าผลการตรวจสอบจะได้ข้อยุติ สำหรับโทษทางวินัย มีความผิด 5 ระดับ คือ ภาคทัณฑ์ ลดเงินเดือน ตัดเงินเดือน ให้ออก และไล่ออก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

หนาวจัด

อ.น้ำหนาว เพชรบูรณ์ หนาวจัด -3 องศาฯ

อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ หนาวจัด ติดลบ 3 องศาฯ ทำให้เกิดแม่คะนิ้งเกาะตามพื้นและหลังคารถ ส่วนแม่ค้าเสื้อผ้ามือสองชาวโคราช แจกเสื้อกันหนาวชาวบ้านฟรี หลังอุณหภูมิในพื้นที่แตะ 10 องศาฯ

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกครอบครัวคนใกล้ชิด “เปิ้ล นาคร” สูญเงิน 6 ล้านบาท พบพฤติการณ์คล้ายแก๊งหลอก “ชาล็อต ออสติน”

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพกับดาราดัง ใช้ กม.สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ร่วมถ่ายภาพประวัติศาสตร์กับดาราดัง ประกาศยินดี “ไทย” ใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมผลักดัน ลั่นวันนี้สำเร็จแล้ว นี่คือความภูมิใจของคนไทย

หมายจับผู้มีพระคุณ

ออกหมายจับผู้มีพระคุณจ้าง “เอ็ม กองเรือ” สังหารอดีต สส.กัมพูชา

ตำรวจเร่งล่า “สมหวัง” ผู้มีพระคุณของ “เอ็ม กองเรือ” หลังศาลออกหมายจับใช้จ้างวานสังหาร “ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา

แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหานายกฯ

นายกฯ เผยเกือบหลงเชื่อแก๊ง​คอลเซ็นเตอร์

นายกฯ เผย เกือบหลงเชื่อแก๊ง​คอลเซ็นเตอร์ หลอกแบบแอดวานซ์​ อ้างเป็นผู้นำประเทศหนึ่ง ส่งคลิปเสียงบอกยังไม่ได้ร่วมบริจาค ระบุ เคยโดนหลายรอบแล้ว ตั้งแต่สมัย “ทักษิณ” ยังไม่กลับไทย ฝากเตือนประชาชน พร้อมยกเป็นนโยบายแก้ปัญหาด่วน ​