นนทบุรี 9 ก.พ. – นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานจัดทำแผนผลักดันการส่งออกเชิงรุกรายภูมิภาคร่วมกับที่ปรึกษาประจำภูมิภาค 7 ภูมิภาค เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนกำหนดแผนผลักดันการส่งออกเชิงรุกรายภูมิภาคตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในการสานพลังประชารัฐ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งต้องการให้ภาคเอกชน โดยเฉพาะรายใหญ่มีบทบาทสำคัญในการช่วยส่งเสริมเอสเอ็มอี ออกสู่ตลาดโลกในรูปแบบพี่จูงน้อง หรือ เพื่อนช่วยเพื่อน และจะนำผลการหารือครั้งนี้ไปจัดทำแผนแต่ละภูมิภาคทั้งแผนระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับอาเซียน จะเน้นการสร้างเครือข่ายของรัฐและเอกชน หาแนวทางลดปัญหาอุปสรรคด้านโลจิสติกส์ และการเข้าไปลงทุนแต่ละประเทศ โดยจะใช้ร้านค้าปลีก ค้าส่ง ร้านสะดวกซื้อ ผลักดันการค้าการลงทุนในอาเซียนให้เพิ่มขึ้น ส่วนจีน จะคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐาน เข้าไปวางจำหน่ายบนชั้นวางสินค้าไทยโดยเฉพาะ และจะสนับสนุนการทำเจรจาจับคู่ธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายอี-คอมเมิร์ซ
ส่วนสหรัฐ จะเน้นสินค้าที่มีมูลค่าสูง มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ผ่านช่องทางค้าส่งค้าปลีก รวมถึงจะเน้นเรื่องคุณภาพมากกว่าปริมาณ เน้นความปลอดภัย การใช้แรงงานถูกกฎหมาย ขายผ่านออนไลน์ สร้างไทยแบรนด์ รวมถึงหาตลาดใหม่และดึงตลาดสินค้าเก่ากลับมา เช่น ตลาดกุ้ง ตลาดแอฟริกา จะเน้นส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ อาหาร โดยจะเชิญผู้ซื้อจากแอฟริกามาซื้อสินค้าในไทยและส่งกลับไปขายต่อในภูมิภาค ด้านตลาดอินเดีย เอเชียใต้ ยอมรับเป็นตลาดที่มีอุปสรรคมาก ดังนั้น ต้องใช้การค้าและการลงทุนควบคู่กัน เน้นการจับคู่ธุรกิจ และงานแสดงสินค้า สำหรับภาพรวมการส่งออกของไทยปีนี้ยังยืนยันเป้าไว้ที่ร้อยละ 3 จึงมีความจำเป็นที่ภาครัฐและเอกชน จะต้องผลักดันการส่งออกให้ได้ตามเป้าหมาย
นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ความร่วมมือของรัฐและเอกชนจะช่วยลดอุปสรรคทางการค้าในต่างประเทศมากขึ้น และเพิ่มการค้าในประเทศใหญ่ ๆ อาทิ สหรัฐ โดยให้เอกชนเป็นผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกแก่รัฐบาลมากขึ้นและภาครัฐเป็นผู้เจรจา ซึ่งเชื่อจะผลักดันส่งออกไทยปีนี้ได้ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 3.-สำนักข่าวไทย