กกพ. เตรียมรองรับเหตุการณ์แหล่งยาดานาหยุดจ่ายก๊าซ

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.)ในฐานะโฆษกของ กกพ. เปิดเผยว่า กกพ. อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการนำมาตรการ Demand Response มาใช้ในการลดการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าด้วยน้ำมันดีเซลของโรงไฟฟ้าความร้อนร่วมราชบุรีและไตรเอนเนอร์จี้เพื่อลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงแหล่งก๊าซยาดานาหยุดผลิตเป็นเวลา 9 วัน คือระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึงวันที่ 2 เมษายน 2560 สำหรับการทำงานเชื่อมต่อแท่นผลิตใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อปริมาณการจ่ายก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันตก รวมประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และจะมีผลทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติลดลงประมาณ 6,400 เมกะวัตต์ จำเป็นต้องมีการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนสูงทดแทน
“สำหรับเหตุการณ์หยุดผลิตก๊าซธรรมชาติในครั้งนี้ กกพ. ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(PEA) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และกระทรวงพลังงาน เตรียมใช้มาตรการ Demand Response ลดการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้โรงไฟฟ้าเป้าหมายคือ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมราชบุรีและไตรเอนเนอร์จี้ และบริเวณที่มีการใช้ไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวมาก คือ บริเวณสถานีไฟฟ้าพระนครใต้ เทพารักษ์ ธนบุรีใต้ และบางพลีจ.สมุทรปราการ โดยลดการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าทั้งสองแห่งที่เดิมจะต้องใช้น้ำมันดีเซลตลอดการเกิดเหตุการณ์รวมประมาณ 400 เมกะวัตต์ กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะขอความร่วมมือให้ลดการใช้ไฟฟ้าเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ คือ วันที่ 27 – 31 มีนาคม 2560 ช่วง Peak เวลา 09.00 – 22.00 น. เป็นผู้ใช้ไฟฟ้า ประเภท 4 (กิจการขนาดใหญ่) ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ บริเวณสถานีไฟฟ้าพระนครใต้ เทพารักษ์ ธนบุรีใต้ และบางพลี200 เมกะวัตต์ และในพื้นที่ภาคกลาง บริเวณจังหวัดราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อีกจำนวน 200 เมกะวัตต์ โดยในครั้งนี้ กกพ. กำหนดอัตราค่าชดเชยสำหรับผู้เข้าร่วมมาตรการที่สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ในช่วงเวลาที่กำหนด ที่ 3 บาท/หน่วย โดยผู้สมัครสามารถแสดงเจตจำนงที่จะลดการใช้ไฟฟ้าโดยระบุจำนวนวันที่จะเข้ามาตรการได้” นายวีระพล กล่าว
ทั้งนี้ จะมีการจัดสัมมนาชี้แจงทำความเข้าใจโครงการให้กับกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ และมีการเปิดรับสมัครผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมมาตรการในวันสัมมนาด้วย -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ