รร.ดุสิตฯ 16 ก.พ. – นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุนหรือเอชไอเอ จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก 34 ราย ร่วมหารือภายใต้กรอบผลักดันให้ไทยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อก้าวเข้าสู่โมเดลประเทศไทย 4.0 จึงเป็นสาระสำคัญที่ไทยจะต้องรับฟังความคิดเห็นผู้นำภาคธุรกิจทั่วโลก
นายสมคิด กล่าวว่า จากการหารือซีอีโอของเอชไอเอให้คำแนะนำประเทศไทยดำเนินการนโยบายสำคัญที่ทำให้ไทยมีการเติบโตทุกด้านอย่างยั่งยืน คือ การพัฒนาระบบการศึกษาที่จะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาคนนำไปสู่การพัฒนาแรงงานที่มีทักษะและฝีมือ เพื่อก้าวทันเทคโนโลยียุค 4.0 ที่ไทยกำลังผลักดัน
“ข้อแนะนำดังกล่าวเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลปัจจุบันกำลังเร่งผลักดัน เชื่อว่าแนวทางที่จะพัฒนาสถาบันการศึกษาระดับภูมิภาคหรือเออีซี ถือเป็นจุดสำคัญที่จะช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคลของไทยให้ก้าวสู่ตลาดแรงานในภูมิภาคได้ รวมทั้งแนวทางปฏิรูปการศึกษาก็จะเป็นอีกแนวทางสนับสนุนนโยบายดังกล่าว” นายสมคิด กล่าว
นอกจากนี้ ยังหารือถึงแนวทางผลักดันนโยบายการเชื่อมโยงไทยกับประเทศในภูมิภาค การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ใน 5 อุตสาหกรรมหลัก เช่น อุตสาหกรรมอาหาร สินค้าเพื่อสุขภาพ เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นต้น รวมถึงแนวทางนโยบายประชารัฐที่รัฐบาลดำเนินการในปัจจุบัน
รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจยืนยันว่าจากการหารือผู้นำธุรกิจทั้งเอชไอเอและผู้บริหารจากบริษัทหัวเว่ยยืนยันถึงความน่าสนใจของไทยที่จะเป็นประเทศเหมาะสมและเข้ามาลงทุนไม่ว่าปัจจัยการเมืองที่นิ่ง อัตราการเติบโตเศรษฐกิจระดับน่าพอใจ แม้เศรษฐกิจโลกจะอยู่ในภาวะย่ำแย่ ดังนั้น คนไทยต้องมีความเชื่อมั่นที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจประเทศเติบโตระยะต่อไป.-สำนักข่าวไทย