กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – จีนปฏิเสธข่าวที่ว่าได้บริจาคโดรนให้กัมพูชา เพื่อใช้ตามแนวชายแดน ในขณะเดียวกันญี่ปุ่นก็ปฏิเสธข่าวที่ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะจัดหาอากาศยานต่อสู้ไร้คนขับ ให้กับประเทศไทย
เฟซบุ๊กของสถานทูตจีนประจำประเทศไทยโพสต์ข้อความระบุว่า โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ว่ามีรายงานข่าวจากบางสำนักอ้างว่าจีนได้บริจาคโดรนให้แก่กัมพูชา เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยระบุว่าจากการตรวจสอบแล้วขอยืนยันว่ารายงานข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ภาพที่ถูกนำไปใช้ในรายงานข่าวเหล่านั้นเป็นภาพที่ถ่ายในระหว่างงานสาธิตการบิน ซึ่งจัดโดย “บริษัท ไชนา เนชั่นแนล แอโร-เทคโนโลยี อิมพอร์ต แอนด์ เอ็กซ์พอร์ต คอร์ปอเรชั่น” (China National Aero-Technology Import & Export Corporation) หรือ “แคทิค” (CATIC) ในกัมพูชาเมื่อเดือนมกราคม 2024 และไม่มีความเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบันแต่อย่างใด
ฝ่ายจีนขอยืนยันอีกครั้งว่านับตั้งแต่ความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาปะทุขึ้น จีน ในฐานะที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นมิตร ได้พยายามอย่างเต็มที่เพื่อลดความตึงเครียดด้วยวิธีการของตนเอง จีนไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ใดๆ จากเรื่องนี้ และสนับสนุนให้อาเซียนในการอำนวยความสะดวกเพื่อหาทางออกทางการเมืองสำหรับสถานการณ์ระหว่างไทยและกัมพูชาผ่านแนวทางของอาเซียน
จีนพร้อมที่จะสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับประเทศในภูมิภาค ได้แก่ ไทย กัมพูชา และมาเลเซีย เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการเสริมสร้างการหยุดยิงให้มีความมั่นคงและฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพโดยเร็วที่สุด
ในขณะเดียวกันสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกรุงพนมเปญของกัมพูชา ออกแถลงการณ์เผยแพร่ทางเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา ชี้แจงข่าวลือที่แพร่กระจายในขณะนี้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นมีแผนที่จะจัดหาโดรนรบให้กับประเทศไทย
สถานทูตฯ ขอยืนยันว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง และขอชี้แจงอย่างชัดเจนว่าทางการญี่ปุ่นไม่เคยมีแผนที่จะมอบอุปกรณ์ประเภทนี้ให้แก่ไทย และยังไม่เคยได้รับคำร้องขอจากประเทศไทยในเรื่องดังกล่าว
แถลงการณ์ยังเน้นย้ำถึงนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นว่า ความช่วยเหลือของประเทศจะถูกจำกัดเฉพาะในด้านที่ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างประเทศโดยตรงเท่านั้น พร้อมกับขอความร่วมมือจากสาธารณชนให้งดเว้นการเผยแพร่ข่าวปลอมนี้
รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสำคัญสูงสุดกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศไทยและกัมพูชาเห็นพ้องร่วมกันไปก่อนหน้านี้ และสนับสนุนการฟื้นฟูสันติภาพโดยเร็ว พร้อมกับหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนชาวกัมพูชาจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันอย่างสงบสุขโดยเร็วที่สุด.-813.-สำนักข่าวไทย