ตลท. 7 มี.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดการซื้อขายวันนี้ (7 มี.ค.) ที่ระดับ 1,549.87 จุด ลดลง 3.74 จุด หรือร้อยละ 0.24 มูลค่าการซื้อขาย 36,607.18 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวแกว่งตัวทั้งแดนบวกและแดนลบ แตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,556.95 จุด และดัชนีต่ำสุดที่ 1,549.09 จุด
นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยช่วงเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงประมาณร้อยละ 0.7 หลังจากดัชนีหุ้นไทยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,600 จุดแล้ว จึงมีการปรับพอร์ตหลังสิ้นสุดช่วงประกาศผลประกอบการ ส่วนแนวโน้มเดือนมีนาคมนี้ คาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนจะแกว่งตัวขึ้นไปทดสอบ แนวต้าน 1,575 จุด หรือ 1,595 จุด หากผิดคาดดัชนีหุ้นไทยอาจลงต่ำกว่า 1,545 จุด และลงไปสร้างฐานใหม่ที่ 1,520 จุด
ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐน่าจะปรับฐานลงจากความกังวลด้านการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและจะกลับขึ้นไปทำระดับสูงสุดครั้งใหม่ โดยมีแนวโน้มที่กระแสเงินทุนจะไหลเข้าสู่กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มากขึ้น จากปัจจัยความเสี่ยงด้านการเมืองในยุโรปจะเริ่มเข้ามามีน้ำหนักมากขึ้น โดยนอกจากอังกฤษจะเริ่มกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) อย่างเป็นทางการภายในสิ้นเดือนมีนาคมแล้ว ยังมีการเลือกตั้งทั่วไปในเนเธอร์แลนด์วันที่ 15 มีนาคมนี้ ส่วนเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส การเลือกตั้งทั่วไปในเยอรมนี ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเดือนเมษายน – พฤษภาคม และกันยายน ตามลำดับ รวมถึงโอกาสที่จะมีการจัดการเลือกตั้งในอิตาลีในช่วงครึ่งปีหลัง
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบัน ซื้อสุทธิ 1,044.79 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 30.37 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,411.63 ล้านบาท และนักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,336.46 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย