บุรีรัมย์ 20 พ.ย.-เกษตรกรบุรีรัมย์ไถไร่มันสำปะหลังทิ้ง หันมาปลูกฝรั่งแป้นสีทองด้วยวิธีภูมิปัญญาพื้นบ้าน ได้ผลผลิตมีขนาดใหญ่ยักษ์กว่าปกติ บางลูกหนักกว่า 1.5 กก. มีลูกค้ามารับซื้อถึงสวน สร้างรายได้ปีละ 1-2 แสนบาท
นางสำลี คูณราช อายุ 57 ปี เกษตรกรบ้านผาแดง ม.4 ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ได้ปรับเปลี่ยนจากการทำไร่มันสำปะหลัง ที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำและโรคระบาดต่อเนื่องมาหลายปี หันมาปลูกฝรั่งสายพันธุ์แป้นสีทองจาก จ.นครปฐม ด้วยวิธีภูมิปัญญาพื้นบ้าน โดยการใช้ปุ๋ยชีวภาพที่หมักจากพืชผัก ผลไม้ และเศษอาหารเหลือทิ้ง นำไปรดโคนต้นฝรั่ง โดยไม่ใช้สารเคมีเลย ทำให้ได้ผลผลิตขนาดใหญ่ยักษ์กว่าฝรั่งแป้นสีทองปกติทั่วไป โดยแต่ละผลมีน้ำหนักตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไปจนถึง 1.5 กิโลกรัม หรือลูกใหญ่เกือบเท่าๆ ผลส้มโอ แถมยังมีรสชาติหวานกรอบอร่อย ไม่แพ้สายพันธุ์อื่นๆ
นางสำลี เล่าว่า เมื่อก่อนปลูกมันสำปะหลัง แต่ประสบปัญหาราคาตกต่ำและโรคระบาด ทำให้ประสบปัญหาขาดทุนต่อเนื่องหลายปี ตนและลูกสาวจึงตัดสินใจหันมาปลูกฝรั่งแป้นสีทอง โดยใช้ปุ๋ยหมักชีวภาพจากพืชผักและเศษอาหารเหลืองทิ้ง บำรุงต้นแทนการใช้สารเคมี ทำให้ได้ผลผลิตใหญ่กว่าปกติ จนบางคนมาเห็นแล้วตกใจ แต่ด้วยรสชาติที่หวาน กรอบอร่อย ไม่แพ้ฝรั่งสายพันธุ์อื่นๆ ทำให้มีลูกค้าสนใจมารับซื้อถึงสวน เพื่อนำไปขายต่อและเป็นของฝาก บางครั้งมีหน่วยงานรัฐมาติดต่อซื้อนำไปจัดแสดงตามงานต่างๆ ทำให้มีรายได้ปีละ 1-2 แสนบาท และสามารถเก็บขายได้ตลอดทั้งปีด้วย แตกต่างจากการปลูกมันสำปะหลังที่เก็บผลผลิตได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย