รู้กลุ่มแฟนบอลจุดพลุแฟร์สนามราชมังฯ แล้ว

กทม. 18 ธ.ค.-ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล4 เผยรู้กลุ่มแฟนบอลจุดพลุแฟร์สนามราชมังฯ แล้ว ชี้มีการเตรียมลักลอบนำพลุแฝงเข้าสนามมาเป็นอย่างดี คาดในสัปดาห์นี้ ชัดเจนในตัวบุคคลระดับผู้นำกลุ่ม


พลตำรวจตรีนันทชาติ ศุภมงคล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล4 เปิดเผยหลังการประชุมว่า จากพยานหลักฐาน อาทิ ภาพถ่าย คลิปวิดีโอจากวันเกิดเหตุ ทราบชัดแล้วว่าเป็นกลุ่มไหน และน่าจะมากกว่า 30 คน ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุขึ้นแผ่นผ้าป้ายชื่อกลุ่มชัดเจน และยังมีการเตรียมการลักลอบนำพลุแฟร์ แฝงเข้าไปกับอุปกรณ์เชียร์ที่มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ซึ่งแม้จะเป็นแฟนบอลทีมชาติไทยจริง แต่การกระทำดังกล่าวเป็นไม่ได้เป็นผลดีต่อทีมบอลและที่สำคัญคือ ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสียชื่อเสียง ภาพลักษณ์เสียหาย ซึ่งกรณีนี้รัฐเป็นผู้เสียหาย กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงมีความผิดตามกฎหมายอาญษ มาตรา 397 ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ในที่สาธารณสถานหรือต่อหน้าธารกำนัล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ น่าจะมีความชัดเจนในตัวบุคคลระดับผู้นำกลุ่มและสามารถออกหมายเรียกมาสอบปากคำได้ ขณะที่ผู้ร่วมกลุ่มแม้จะไม่ได้ก่อเหตุจุดพลุแฟร์ แต่เจ้าหน้าที่สามารถเรียกมาสอบปากคำได้ตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีการตรวจค้นพบประทัดลูกบอลอีกจำนวนหนึ่ง ด้านนอกสนามแข่งขันฟุตบอล อยู่ระหว่างสืบสวน ตรวจสอบว่า เป็นของกลุ่มใด


สำหรับความผิดของกลุ่มผู้จุดพลุแฟลร์ ขณะนี้มีเพียงตำรวจ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นผู้เสียหาย และ การกระทำดังกล่าว ยังต้องพิจารณาพยานหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติม ว่าจะขัดต่อคำสั่ง คสช. ที่ห้ามยิงพลุดอกไม้ไฟขึ้นฟ้าหรือไม่ ไปจนถึงจะมีประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการจุดพลุแฟร์เข้ามาร้องทุกข์หรือไม่ ซึ่งหากได้รับอันตราย หรือผลกระทบใด สามารถเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่ สน.หัวหมาก 24 ชั่วโมง

ส่วนข้อสังเกตเรื่องการลักลอบนำสิ่งเหล่านี้เข้าไปในสนามแข่งได้นั้น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล4 ระบุว่า การตรวจสอบ ตรวจค้น บุคคล เข้า ออกสนาม เป็นงานบริษัทเอกชน ที่ดำเนินการ ส่วนตำรวจจะเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุกรณีเจอสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งก็ต้องเรียกตัวแทนบริษัทดังกล่าวเข้ามาสอบถามรายละเอียดเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม