อนุทิน รุก “การแพทย์ New Normal”มีกองทุนบัตรทองสนับสนุน

รพ.รามาธิบดี 24 ก.ค..-อนุทิน รุก “การแพทย์ยุค New Normal”ตรวจเยี่ยม รพ.รามาธิบดี ที่มีความ พร้อมบริการ สาธารณสุขทางไกล และบริการเคมีบำบัดที่บ้านในผู้ป่วยมะเร็ง  มีกองทุนบัตรทองจัดงบสนับสนุน 


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการ สปสช.  ตรวจเยี่ยมการจัดบริการเพื่อรองรับสถานการณ์โควิด-19 และเข้าสู่ภาวะ New Normal ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยมี ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และ รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี ให้การต้อนรับ


นายอนุทิน กล่าวว่า การปรับรูปแบบให้บริการทางการแพทย์ New Normal เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรค ช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อให้กับผู้ป่วยและลดการแพร่กระจายของโรคได้ และเป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เล็งเห็นความสำคัญและมีนโยบายสนับสนุนหน่วยบริการ มีการจัดสรรงบเพิ่มเติมกว่า 4,455ล้านบาท  เพื่อสนับสนุน  การรับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน /จัดส่งยาทางไปรษณีย์ รวมถึงบริการระบบสาธารณสุขทางไกล (Telemehealth / Telemedicine)

โรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นหนึ่งได้นำเทคโนโลยีมาใช้ทางการแพทย์ เริ่มให้บริการระบบสาธารณสุขทางไกลเมื่อ1เมษายน 2563 ทำให้ผู้ป่วยที่แพทย์วินิจฉัยว่าสามารถรับบริการระบบสาธารณสุขทางไกลได้ ไม่ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาล โดยรับการตรวจรักษาจากแพทย์ผ่าน Rama App หรือ Line video call และโทรศัพท์พูดคุยเพิ่มเติม และจัดส่งยาทางไปรษณีย์ให้ที่บ้าน โดย สปสช. สนับสนุนค่าจัดส่ง ปัจจุบันโรงพยาบาลรามาธิบดีมีผู้ป่วยรับบริการ เทเลเมดิซีน กว่า 10,000คน เฉลี่ย 400-600 คน/วัน หรือประมาณ 10%ของผู้ป่วย และมีแผนเพิ่มอัตราใช้บริการเป็น 20% ต่อไป


 

ด้านนายแพทย์ศักดิ์ชัย  กล่าวว่า บริการยาเคมีบำบัดมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่บ้าน เป็นสิทธิประโยชน์ใหม่ในระบบบัตรทอง เริ่มในเดือนกรกฎาคมนี้  เป็นการพัฒนาสิทธิประโยชน์จากผลงานบริการของโรงพยาบาลรามาธิบดีที่ได้เริ่มในปี 2559 นอกจากทำให้ผู้ป่วยได้รับยาเคมีบำบัดตรงตามนัดทุกครั้ง ไม่ต้องรอเตียง ไม่ต้องนอนรับยาที่โรงพยาบาล ให้ผลการรักษาที่ดีแล้ว ยังเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย เพราะระหว่างที่ผู้ป่วยรับยาเคมีบำบัดสามารถทำภารกิจประจำวันอื่นไปพร้อมกันได้ และมีต้นทุนบริการไม่แตกต่าง โดยโรงพยาบาลรามาธิบดีเป็นหนึ่งในโรงพยาบาล 7 แห่ง ร่วมนำร่องสิทธิประโยชน์ใหม่นี้ ซึ่งอีก 6 แห่ง ได้แก่ สถาบันมะเร็งแห่งชาติรพ.มะเร็งลพบุรี รพ.มะเร็งชลบุรี รพ.ราชวิถี รพ.จุฬาภรณ์ และ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า

“การรับเคมีบำบัดปกติคนไข้ต้องใช้เวลารอเตียงนาน 5-7 วัน ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่มาก ทำให้การนัดรับยาคลาดเคลื่อน ทั้งการให้ยาเคมีบำบัดแต่ละครั้งผู้ป่วยต้องนอนที่โรงพยาบาลนาน 2-3 วัน บริการเคมีบำบัดที่บ้านจึงเป็นทางออกที่ดี และเป็นบริการทางการแพทย์ New Normal ทั้งนี้เหตุที่เริ่มในผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะจำนวนผู้ป่วยมีมาก 1 ใน 5 ของโรคมะเร็งที่พบมากที่สุด และตัวยาเคมีบำบัดที่ใช้ที่บ้านค่อนข้างปลอดภัยและมีความเสถียร”นายแพทย์ศักดิ์ชัย กล่าว

โรงพยาบาลรามาธิบดียังได้นำเสนอบริการ “ปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต” (สเต็มเซลล์)ซึ่ง เป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยเริ่มในปี 2551 ในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลือง เนื่องจากเป็นการรักษาต่อเนื่องหลังจากการให้เคมีบำบัด ต่อมาปี 2554 ได้เพิ่มการรักษาไปยังผู้ป่วยธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง ทั้งยังขยายครอบคลุมกรณีที่ผู้บริจาคเม็ดโลหิตที่ไม่ใช่ญาติ ส่งผลให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาเพิ่มมากขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2551-2562 มีผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายแล้ว จำนวน 489 ราย และในปีงบประมาณ 2563 ได้ขยายเป้าหมายเพิ่มการเข้าถึงการรักษาของผู้ป่วยเป็น 110 ราย      ทั้งนี้ โรงพยาบาลรามาธิบดีมีความเชี่ยวชาญการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ และที่ผ่านมาได้ให้บริการปลูกถ่ายผู้ป่วยจำนวนมาก รวมถึงกรณีน้องจีน อายุ 7 ปี ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมียที่รับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์จากไขกระดูกที่รับจากน้องจีโอ้ (น้องชาย) อายุ 5 ปี ขณะติดเชื้อ COVID-19 รายแรกของโลก โดยใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สะท้อนถึงความสามารถของทีมแพทย์และระบบการแพทย์ไทยในการดูแลผู้ป่วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พยาบาลถูกตบ

“สมศักดิ์” พร้อมช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า

“สมศักดิ์” รมว.สธ. พร้อมสนับสนุนหา “ทนายความ” ช่วยคดี “พยาบาลสาว” ถูกญาติผู้ป่วยตบหน้า บอกหากเจ้าตัวไม่ดำเนินคดี กระทรวงฯ พร้อมออกโรงแทน หวั่นเป็นเยี่ยงอย่าง

รพ.ระยอง ยันดำเนินคดีถึงที่สุดญาติคนไข้ตบพยาบาล

โรงพยาบาลระยอง แถลงปมญาติคนไข้ตบหน้าพยาบาล เผยหลังเกิดเหตุได้ดูแลอาการบาดเจ็บของพยาบาลผู้ประสบเหตุทันที ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

ข่าวแนะนำ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เสนอ 4 ข้อปราบแก๊งคอลฯ

“หลิว จงอี” ถึงกลาโหม เตรียมเสนอ 4 มาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “บิ๊กอ้วน” คณะทูตจีนรอต้อนรับ ขณะเจ้าตัวสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่ตอบสื่อ

สธ.ลั่นเอาผิดญาติคนไข้ตบพยาบาลให้ถึงที่สุด

ผอ.โรงพยาบาลระยอง เข้าพบผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข ปมญาติคนไข้บุกตบพยาบาล สธ. ยืนยันต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านพยาบาลยังเครียด เยื่อบุแก้วหูอักเสบรุนแรง

รวบชาวจีนเช่าคอนโดพระราม 9 เปิดเว็บพนันออนไลน์

ตำรวจบุกจับ ชาวจีน 15 คน เช่าคอนโดยกชั้น ย่านพระราม 9 เปิดเป็นฐานปฏิบัติการเว็บพนันออนไลน์ พบเงินหมุนเวียนในบัญชีดิจิทัล กว่า 9 ล้านบาท