7 ส.ค. – กรณีกรมที่ดินพร้อมเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกในที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ หลังแนวเขตที่ดินชัดเจนและยุติในชั้นศาล ที่ดินผืนนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย วันนี้ดีเอสไอเข้าขอข้อมูลที่ดินเขากระโดง กับ รฟท. พบแผนที่แสดงแนวเขต ปี 2464 เตรียมใช้เป็นหลักฐานสำคัญ
พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ เข้าพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินของการรถไฟฯ เพื่อประสานข้อมูลที่ดินรถไฟเขากระโดง คือ แผนที่แสดงเขตที่ดินการรถไฟฯ เขากระโดง เมื่อปี 2464 ซึ่งระบุชัดเจนว่า เนื้อที่วัดจากทางรถไฟออกไปฝั่งซ้าย-ขวา อย่างละ 1,000 เมตร จนถึงหลักกิโลเมตรที่ 8 เป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟฯ ซึ่งสอดคล้องกับแผนที่ที่กรมที่ดินและการรถไฟฯ ร่วมกันจัดทำตามคำสั่งศาลปกครอง มีผลให้แผนที่เป็นหลักฐานสำคัญที่ดีเอสไอจะนำไปใช้ตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดิน 995 แปลง รวมเนื้อที่ 5,083 ไร่ ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยจะลงพื้นที่ไปดูรายละเอียดวันที่ 19-23 สิงหาคมนี้
ส่วนกรณีที่อ้างคำพิพากษาว่า ศาลให้เพิกถอนเฉพาะที่ดินคู่ความนั้น ในส่วนนี้อาจเป็นข้อต่อสู้ที่หยิบยกขึ้นมากล่าวอ้าง แต่การสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอจะดำเนินการทั้งหมด 5,083 ไร่ ย้ำเป็นการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับในส่วนที่มีคำพิพากษาแล้ว ยืนยันว่าจะดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
หากตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่แล้ว พบว่ามีการซื้อขายกรรมสิทธิ์ หรือนำที่ดินของรัฐไปค้าขาย จะเข้าข่ายมีความผิดฐานฟอกเงินด้วย
ทั้งนี้ นอกจากข้อมูลจากการรถไฟฯ แล้ว ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างการประสานขอข้อมูลจากกรมที่ดิน สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ที่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ด้วย เพราะจะมีข้อเท็จจริงหลายประการที่ใช้ตรวจสอบข้อเท็จจริงได้
ชาวบ้านเขากระโดงรับฟังข้อกฎหมาย
ขณะที่วันนี้ชาวบ้านกว่า 300 คน จากทั้งหมด 995 คน ที่มีเอกสารสิทธิและไม่มีเอกสารสิทธิ ที่มีที่ดินอยู่แนวเขตที่รถไฟอ้างสิทธิรัศมีจากทางรถไฟ 1,000 เมตร กินพื้นที่ 5,083 ไร่ มารวมตัวกันที่สนามฟุตบอลช้าง อารีน่า เพื่อรับฟังข้อมูลจากทนายความ
คดีนี้จุดเริ่มต้นจากการที่บุคคลและนิติบุคคลบางกลุ่มเข้าครอบครองและออกเอกสารสิทธิในที่ดินเขากระโดง ซึ่ง รฟท. ใช้เป็นพื้นที่สัมปทานเหมืองหินแร่ และสำรวจแนวเขตที่ดินร่วมกับกรมที่ดินมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2496 และรังวัดปักหลักเขตที่ดินชัดเจนในปี พ.ศ. 2503
ภายหลังมีการออกโฉนดที่ดินของ รฟท. ซึ่งนำไปสู่การฟ้องร้องดำเนินคดีมาต่อเนื่อง กระทั่งปี พ.ศ. 2560 ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าที่ดินเขากระโดงเป็นของการรถไฟฯ แต่กระบวนการเพิกถอนโฉนดกลับไม่คืบหน้าอย่างที่ควรจะเป็น กระทั่งมีการร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ป.ป.ช. ให้เข้าตรวจสอบ.-สำนักข่าวไทย