ประจวบคีรีขันธ์ 22 ก.ค.- หัวหน้าการเงิน สนง.จังหวัดประจวบฯ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วให้การปฏิเสธในคดีสาวพนักงานราชการยักยอกงบรัฐ 39.2 ล้านบาท ขณะที่แม่ของผู้ต้องหาปฏิเสธเช่นกัน เตรียมโฉนดขอประกันตัวในชั้นศาล ยันอดีตสามีกำนันไม่เคยมาเกี่ยวข้องหรือช่วยเหลือ หลังลูกสาวถูกจับ
เมื่อเวลา 12.30 น. (22 ก.ค.) นางสายพิณ ดิบดีคุ้ม อายุ 60 ปี และญาติ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.หญิง สุภาภรณ์ ดวงกัลยา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ หลังถูกศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ออกหมายจับวานนี้ (21 ก.ค.) และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดได้คุมตัวมาสอบปากคำ ซึ่งนางสายพิณ เป็นแม่ของ น.ส.ขนิษฐา หอยทอง พนักงานราชการ (ตำแหน่งขณะนั้นพนักงานวิชาการเงินและบัญชี) สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ถูกจับกุมเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา คดียักยอกงบประมาณ 39.2 ล้านบาท ขณะนี้ฝากขังเป็นผัดที่ 3 ที่เรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ นางสายพิณ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 86 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น และข้อหาสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดตามมาตรา 157 ตามประมวลกฎหมายอาญา
พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนางสายพิณ นานกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝากขังผัดแรก 12 วัน พร้อมคัดค้านการประกันตัว ขณะที่นางสายพิณ เตรียมโฉนดที่ดิน 2 ไร่ ในพื้นที่ ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยื่นขอประกันตัวในชั้นศาลผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์
นางสายพิณ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ไม่คิดว่าจะตกเป็นผู้ต้องหา และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในความผิดของลูกสาว อีกทั้งไม่เคยคิดที่จะหลบหนีตามที่บางฝ่ายตั้งข้อสังเกต เพราะมีอาชีพเลี้ยงวัว และรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ส่วนสามีเก่าที่เป็นอดีตกำนันก็ไม่เคยมายุ่งเกี่ยว เพราะเลิกรากันไปนานแล้ว โดยเฉพาะช่วงที่ลูกสาวถูกจับ ก็ไม่เคยติดต่อมาหรือให้ความช่วยเหลือ
“แม้อยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่ลูกสาวไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง และยอมรับว่าในระยะหลังสังเกตลูกสาวมีอาการเครียดก่อนที่จะถูกดำเนินคดี ซึ่งลูกยอมรับว่าเอาเงินไปเล่นการพนันออนไลน์จริง ไม่อย่างนั้นเงินจะหายไปไหนหมด และไม่เคยเอาเงินมาให้แม่นอกจากเงินเดือน”
นางสายพิณ กล่าวด้วยว่า ส่วนบัญชีเงินฝาก ธกส. ที่พบมีการโอนเงินจากการทุจริตนั้น เป็นบัญชีที่เปิดไว้เพื่อรับเงินผู้สูงอายุรายเดือน หลังจากลูกสาวถูกจับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดเงินในบัญชีทั้งหมด
ส่วนนักวิชาการการเงินและบัญชีชำนาญการ ซึ่งเป็นหัวหน้าการเงิน สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนแล้วช่วงเช้าที่ผ่านมา (22 ก.ค.) ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หลังจากให้ปากคำแล้ว พนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราว เนื่องจากเป็นข้าราชการระดับสูง ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา.-สำนักข่าวไทย